ในวงการอสังหาริมทรัพย์โลก มีรางวัลโครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่นคือ FIABCI World Prix d’Excellence Awards ซึ่งถือเป็นรางวัลออสการ์ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์โลก  เรามาดูกันว่าเขาทำโครงการกันอย่างไร จึงได้รับรางวัลในระดับนี้ แล้วนักพัฒนาที่ดินไทย จะก้าวไปรับรางวัลระดับสากลได้อย่างไรบ้าง

            ผมในฐานะนายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล หรือ FIABCI ประจำประเทศไทย ได้เป็นกรรมการตัดสินโครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่นมาหลายปีแล้ว และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2566 ก็ได้มีพิธีมอบรางวัล 2023 FIABCI World Prix d’Excellence Awards ณ นครไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา และผมก็ได้เข้าร่วมงาน Gala Dinner ในการมอบรางวัลดังกล่าวด้วย และมีบริษัทพัฒนาที่ดินชั้นนำที่ได้รับรางวัลจากทั่วโลก ประมาณ 30 รางวัลไปรับรางวัลดังกล่าว

            FIABCI เป็นคำย่อของภาษาฝรั่งเศสคือ "Federation Internationale des Administrateurs de Bien-Conselis Immobiliers" ซึ่งแปลว่า International Real Estate Federation  โดย FIABCI จัดตั้งขึ้นในปี 2483 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันมีอายุ 83 ปีแล้ว มี FIABCI อยู่ในประเทศทั่วโลก 70 ประเทศ มีสมาคมอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเป็นสมาชิกถึง 120 แห่งทั่วโลกเช่นกัน ถ้านับรวมสมาชิกของสมาคมอสังหาริมทรัพย์ในสังกัดทั้งหมด มีจำนวนสมาชิกมากถึง 1.5 ล้านคนทั่วโลก จึงเป็นสมาคมอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

            FIABCI เป็นแหล่งเชื่อมโยงนักอสังหาริมทรัพย์สากล ที่ต่างมีความสนใจในการแลกเปลี่ยนความรู้ ข่าวสาร และทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระหว่างประเทศ นักอสังหาริมทรัพย์ของ FIABCI ประกอบด้วยนักพัฒนาที่ดิน นายหน้า นักบริหารทรัพย์สิน ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน นักลงทุน ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ สถาปนิก วิศวกร นักผังเมือง นักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

            โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับรางวัลประกอบด้วย โครงการอสังหาริมทรัพย์ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ด้านอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม ประเภทการพัฒนาที่ยั่งยืน โครงการเมืองใหม่-เมืองชี้นำ โรงแรม ศูนย์ประชุม นิคมอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน อาคารชุดพักอาศัย ที่อยู่อาศัยแนวราบ รีสอร์ตและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อน ศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ชนบท เช่น สวนเกษตร สวนป่า อสังหาริมทรัพย์ประเภทพิเศษ เช่น สนามบินนานาชาติ และยังรวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สะพาน ถนน ทางด่วน รถไฟฟ้า เป็นต้น ในแต่ละปีก็อาจมีครบทุกประเภทหรือไม่ก็แล้วแต่โครงการที่ส่งเข้าประกวด

            โครงการแรกที่ขอแนะนำก็คือ i-Park@Senai  Airport City โดยเป็นการพัฒนาเมืองการบินในรูปแบบอุตสาหกรรมเบา เพื่อส่งสินค้าไปทางเครื่องบิน โครงการนี้อยู่ในเขต Senai ใกล้สนามบินยะโฮร์บาห์รู  ทางตอนใต้ของคาบสมุทรมาเลเซียใกล้กับสิงคโปร์  การที่รัฐบาลจัดผังเมืองให้มีเมืองการบินนี้ ทำให้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอุตสาหกรรมสามารถเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยตรง  เสียดายที่สมัยที่สร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ไทยเคยคิดจะสร้างเมืองการบินเช่นกัน แต่ถูกคัดค้านหนัก ทำให้การพัฒนาพื้นที่รอบสนามบินมีลักษณะที่สะเปะสะปะเช่นในปัจจุบัน

            ศูนย์การค้า Ikia  ใจกลางกรุงเวียนนา เป็นที่ทราบกันว่ามีข้อจำกัดมากมายในการก่อสร้างในใจกลางกรุงในยุโรป แต่ Ikia ประสบความสำเร็จในการสร้างอาคารักษาสิ่งแวดล้อม และไม่มีที่จอดรถเลย ผู้สนใจเดินทางมาโดยรถสาธารณะหรืออื่นใด แต่ศูนย์การค้านี้จะจัดส่งสินค้าให้ถึงบ้านในภายหลัง ทั้งนี้เป็นอาคาร 7 ชั้น มีพื้นที่ 18,000 ตารางเมตร เป็นอาคารที่เป็นเสมือนโอเอซิสสีเขียวในย่านที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเวียนนา พร้อมปลูกต้นไม้ถึง 160 ต้น มีแผงโซลาร์เซลล์และเครื่องทำความร้อนและความเย็นประสิทธิภาพสูง ผู้ซื้อสินค้าเพียงใช้แอพลิเคขันของ IKEA และบัตรเครดิตในการซื้อสินค้า

            โรงแรม 5 ดาว The Barracks Hotel Sentosa ในประเทศสิงคโปร์ โดยโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะเซนโตซาซึ่งเป็นเกาะท่องเที่ยวของสิงคโปร์ บนเกาะนี้ยังมีกาสิโนอีกด้วย  ในกลุ่มโรงแรมนี้มีทั้งหมด 4 โรงแรมที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน แต่มาอยู่รวมกัน ทำให้ผู้เข้าพักสามารถเลือกหรือเปลี่ยนบรรยากาศห้องในแต่ละช่วงของการพักได้  ทั้งนี้ค่าเช่าตกเป็นเงินคืนละประมาณ 10,000-20,000 บาท ด้วยการบริการและการออกแบบที่ดีเยี่ยม จึงทำให้โครงการนี้ได้รับรางวัลดีเด่น ยิ่งกว่านั้นโรงแรมทั้งสี่แห่งยังตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้า โดยห่างออกไปเพียง 2 นาที

            อาคารสำนักงาน Menara Hap Seng 3 เป็นอาคารสำนักงานสูง 26 ชั้นเท่านั้น แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหนือมาตรฐานทั่วไป สำหรับการออกแบบภายในใช้แนวคิดการพัฒนาจากธรรมชาติของเมืองไปสู่รูปแบบวิธีทางสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังเป็นอาคารเชิงพาณิชย์ที่สวยงามและใช้งานได้จริงซึ่งตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรมระดับแนวหน้า โดยสอดคล้องกับอาคารสำนักงานเกรด A, การรับรอง GBI, LEED Gold Certification และโซน MSC จึงได้รับรางวัล FIABCI Prix d’Excellence Awards นี้

            ศูนย์ประชุม Hung Expo ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 75,000 ตารางเมตร และยังมีหอประชุมสำหรับผู้เข้าร่วมได้ถึง 4,500 ที่นั่ง โครงการนี้มีการออกแบบที่รักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยอดเยี่ยม รวมทั้งสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดโครงการนี้ อย่างกรณีของไทย เช่น ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่ผ่านการปรับปรุงใหม่ (หรือสร้างใหม่ก็ว่าได้) ก็สามารถเข้าประกวดและมีโอกาสสูงที่จะได้รับรางวัลระดับโลกนี้เช่นกัน เพราะการออกแบบที่ยอดเยี่ยมของศูนย์ฯ นั่นเอง

            ทางหลวงหมายเลข 9A ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน ทั้งนี้ถือเป็นทางหลวงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นโครงการทางหลวงที่ก่อสร้างโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี และมีความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากแต่เดิมทางหลวงสายนี้เคยถูกพายุดพัดขาดไปครั้งหนึ่ง  การซ่อม-สร้างใหม่จึงดำเนินการอย่างประณีต  กรณีทางหลวงนี้ ประเทศไทยก็มีทางหลวงที่สวยงามหลายแห่งเช่นกัน เช่น จุดเช็คอินสำคัญๆ ของกรมทางหลวง รวมทั้งทางหลวงหมายเลข 1263 ช่วงขุนยวม-ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีระยะทาง 20.52 กิโลเมตรก็สามารถเทียบเคียงกับโครงการที่ได้รับรางวัลระดับโลกนี้ได้เช่นกัน

            ศูนย์กีฬา Caeladon Sports & Resort Club ตั้งอยู่ในนครโฮจิมินห์ซิตี้ บริษัทที่พัฒนาก็คือ Gamuda Land ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาที่ดินชั้นนำโดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามรูปแบบเมืองสีเขียวที่ยั่งยืนของซึ่งเป็นบริษัทลูกจาก ประเทศมาเลเซีย และมีประสบการณ์เกือบ 25 ปีในการวางแผนและกำหนดรูปแบบพื้นที่เมืองทั่วโลก และโครงการเมืองจำลองกว่า 12 โครงการและโครงการตึกระฟ้า 9 โครงการในมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และออสเตรเลีย ทั้งนี้มีพื้นที่รวมกันถึง 34 ไร่ และสามารถให้บริการจัดการแข่งขันแบดมินตัน เทนนิส ว่ายน้ำระดับโลกและกิจกรรมทางวัฒนธรรม องค์กร องค์กร และแฟชั่นที่สำคัญอื่น ๆ อีกมากมาย

            ท่านที่สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมของแต่ละโครงการที่ได้รับรางวัล สามารถดูได้ที่ https://citly.me/OIC7y โดยสามารถ download ดูรายละเอียดได้เลย เพื่อเป็นกรณีศึกษาสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยให้ได้รางวัลดีเด่นเช่นอารยประเทศ

            โครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ประสงค์จะส่งเข้าประกวดในระดับโลก ต้องผ่านรางวัล FIABCI-Thai Prix d’Excellence Awards ก่อน โดยท่านสามารถสมัครรับรางวัล 2023 FIABCI-Thai Prix d’Excellence Awards ได้ที่ https://t.ly/rOylr ทั้งนี้สมัครถึงวันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2566 โดยมีคณะกรรมการจากนานาชาติมาร่วมตัดสิน และรับรางวัลในวันศุกรที่ 6 ตุลาคม 2566 พร้อมงาน Gala Dinner ณ โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร

            มาร่วมประกวดโครงการระดับชาติแล้วไปต่อระดับโลก ให้โลกลือลั่นถือฝีมือการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย