หลายท่านคงอยากทราบว่าภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟิลิปปินส์ล่าสุดเป็นอย่างไร มาดูผลสำรวจล่าสุดของ ดร.โสภณที่ไปทำแบบสอบถามถึงนครเซบู
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้รับเชิญจากสมาคม Philippine Federation of Real Estate Service Professionals Inc ให้ไปสอนวิชาประเมินค่าทรัพย์สินและสัมมนา ในระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2566 ดร.โสภณจึงได้ทำแบบสอบถามความเห็นกับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นนายหน้า นักพัฒนาที่ดินและอื่นๆ โดยในเบื้องต้นได้ความดังนี้:
1. เหล่าผู้ประเมินราคาและนายหน้าในฟิลิปปินส์มองว่าเศรษฐกิจของประเทศในปี 2566 ค่อนข้างดี (ประเมินที่ 6.9 เต็ม 10) เศรษฐกิจในปี 2567 ได้รับการประเมินว่าดีขึ้นที่ 7.8 ดังนั้นเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์จึงมีความหวังสูง ในทำนองเดียวกันตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับการประเมินว่าดียิ่งขึ้น ได้รับการประเมินที่ 7.3 จาก 10 ในปี 2566 และอาจเป็น 8.1 ในปี 2567 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในฟิลิปปินส์ดูเหมือนจะเฟื่องฟูในอนาคตอันใกล้
2. ที่อยู่อาศัยแนวราบโดยเฉพาะบ้านเดี่ยวและบ้านแถวเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฟิลิปปินส์โดยรวม (29%) อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์โดยเฉพาะศูนย์การค้าเป็นอันดับสองด้วยความนิยม 18.8% จากนั้นเป็นคุณสมบัติทางอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับลำดับที่สามในลำดับความสำคัญ อื่นๆ ได้แก่ เกษตรกรรม/ฟาร์ม คอนโดมิเนียม ที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม ที่ดิน พื้นที่สำนักงาน อสังหาริมทรัพย์รีสอร์ท อสังหาริมทรัพย์เพื่อการเกษียณอายุ และอื่นๆ
3. Ayala Land, SM Prime Holdings, Megaworld และ DMCI Homes เป็นหนึ่งในผู้พัฒนารายใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ โดยมีสัดส่วน 17% 15% 10% และ 9% ตามลำดับ พวกเขาเป็นบริษัทชั้นนำมานานหลายทศวรรษและไม่เปลี่ยนแปลงอันเป็นผลมาจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งในฟิลิปปินส์
4. มาคาติเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและน่าลงทุนที่สุดในฟิลิปปินส์ เซบูเป็นอันดับสองในลำดับความสำคัญ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแบบสอบถามนี้จัดทำขึ้นในเซบู จึงอาจมีอคติอยู่บ้าง เมืองดาเวาซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของฟิลิปปินส์เป็นอันดับสามในลำดับความสำคัญนี้ จริงๆ แล้ว Cavite และ Taguig เป็น “เมืองนอน” ของ Makati นี่บอกเป็นนัยว่าภาคมหานครของ (รวมถึงเกซอนซิตี้ และนิวคลาร์กซิตี้) เป็นเมืองใหญ่สุดของฟิลิปปินส์จริงๆ
5. สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศอันดับหนึ่งที่ชาวเวียดนามต้องการซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่นั่น (13.4%) รองลงมาคือสิงคโปร์ (12.2%) แคนาดาและญี่ปุ่นเป็นอันดับสามและสี่ตามลำดับ จากนั้นออสเตรเลีย ไทย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เชื่อกันว่าคนฟิลิปปินส์จำนวนมากชอบที่จะลงทุนในต่างประเทศหากมีโอกาส
กล่าวโดยสรุป ฟิลิปปินส์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและน่าจะเป็นจุดหมายปลายทางที่ดีสำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลาย ประชากรของประเทศยังคงเติบโตและมีกำลังซื้อที่สูงขึ้น