ในเดือนเมษายน 2557 การเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ลดลงอย่างเด่นชัดถึง 24% แต่ทั้งนี้คงเป็นผลจากเดือนดังกล่าวมีวันหยุดมาก ประจวบกับความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงเดือนที่ 7 แล้ว
          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายน ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการเปิดตัวลดลงจากเดือนมีนาคมเล็กน้อย เนื่องจากในเดือนนี้มีวันหยุดราชการยาวต่อเนื่อง จึงมีหลายโครงการที่ชะลอการเปิดตัวออกไป ในเดือนนี้มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 27 โครงการ เป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัย 26 โครงการ และโฮมออฟฟิศ อีก 1 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวมทั้งหมด 6,013 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 18,721ล้านบาท
          จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 6,013 หน่วย ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน -1,893 หน่วย (เดือนมีนาคม 2556 มีจำนวน 7,906 หน่วย) หรือลดลง -24% เนื่องจากในเดือนนี้มีวันหยุดเทศกาล และโครงการที่เปิดในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะมีขนาดปานกลาง ซึ่งเฉลี่ยต่อโครงการประมาณ  222 หน่วยขึ้นไป และเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์เป็นสำคัญ ห้องชุดเปิดตัวมากสุดคือ 2,713 หน่วย แต่ก็นับว่าลดลงคือเหลือเพียง 45.1% ของทั้งหมดที่เปิดตัว รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 2,221 หน่วย (36.9%) ส่วนอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 839 หน่วย (14.0%)
          มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนเมษายน 2557 ณ 18,721ล้านบาท ปรากฏว่าลดลงจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน -5,994 ล้านบาท (เดือนมีนาคม 2557 มีมูลค่า 24,715 ล้านบาท) หรือลดลงประมาณ -24% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา โดยจะพบว่าสินค้าที่เข้าสู่ตลาดส่วนใหญ่มีราคาปานกลางเป็นสำคัญ โดยราคาสินค้าส่วนใหญ่จะเน้นที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท (61%) รองลงมา คือที่ราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวนประมาณ (23%) ของหน่วยขายที่เปิดใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้
          เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 17% จากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 29% ต่อเดือน ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมา โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีจำนวนหน่วยขายได้มากสุดอันดับ 1 คือ อาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 927 หน่วย ขายได้แล้ว 354 หน่วย (35%) รองลงคือ อาคารชุดระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จำนวน 1,228 หน่วย ขายได้แล้ว 223 หน่วย (18%) และอันดับ 3 คืออาคารชุดระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 558 หน่วย ขายได้แล้ว 157 หน่วย (28%)
          ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 8 บริษัท คือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท แผ่นดินทอง พร๊อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์  จำกัด (มหาชน) บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) บริษัท ริชี่ เพลส 2002 จำกัด (มหาชน)  บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัยจำกัด (มหาชน) และมีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 1 บริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง คือเพียง 26% ของทั้งตลาด
          อย่างไรก็ตามในเดือนเมษายนนี้ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้พบโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอเปิดขายใหม่ในอนาคตอีก 330 โครงการ จะสังเกตได้ว่ามีโครงการหลายแห่งที่ได้ประกาศตัวหรือเปิดตัวทางหน้าหนังสือพิมพ์ อย่างไรก็ตามในการเปิดขายจริง (ที่มีโบรชัวร์และสำนักงานขายที่พร้อมต้อนรับผู้สนใจซื้อไปเยี่ยมชม) ยังไม่มี จึงถือเป็นโครงการที่ยังไม่เปิดตัวและเมื่อเปิดตัวจริงแล้ว จะได้ดำเนินการสำรวจต่อไป