สร้างบ้านริมคลองให้พวกกฎหมู่ผิดกฎหมาย ผิดมหันต์ น่าละอาย
  AREA แถลง ฉบับที่ 657/2566: วันอังคารที่ 15 สิงหาคม 2566

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

 

            การที่รัฐบาลสร้างบ้านริมคลองให้พวกกฎหมู่ผิดกฎหมาย ผิดมหันต์ น่าละอาย ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ขอรณรงค์ในเรื่องนี้

            ขณะนี้กำลังมีการถมคลองเปรมประชากร ทำให้คลองเล็กลงไปกว่าครึ่งเพื่อเตรียมสร้างบ้านมั่นคงอีกแล้ว สร้างเสร็จการจราจรก็คงติดขัดหนัก น้ำไม่ระบาย ชาวบ้านข้างเคียงนับพันนับหมื่นครัวเรือน นับแสนคนก็คงเดือดร้อนเพราะรัฐบาลหาเสียงช่วยคนบุกรุกผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมายอย่างหน้าตาเฉย แถมให้มีบ้านอยู่ไปชั่วชีวิตและยังมีคนนอกเข้ามาสวมสิทธิ์อีก

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้เคยทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 แต่ไม่คืบหน้าอะไรแถมกำลังสร้างเพิ่มขึ้นอีก มาลองดูจดหมายถึงนายกฯ ของ ดร.โสภณ ที่เสนอให้ขอให้ล้มเลิกโครงการบ้านมั่นคง คลองเปรมประชากร อีกรอบ

 

เรื่องเดิม

            ตามที่รัฐบาลได้ทำการก่อสร้างบ้านมั่นคงริมคลองเปรมประชากรนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ให้คลองเปรมประชากรมีขนาดเล็กลง ยกเอาที่ดินของแผ่นดินไปใช้เพื่อ “กฎหมู่” อย่างผิดกฎหมายและทุจริต สร้างความเสียหายแก่ประชาชนและประเทศชาติ

            ที่ผ่านมารัฐบาลได้นำที่ดินริมคลองเปรมประชากรไปก่อสร้างบ้านมั่นคงให้กับผู้บุกรุกริมคลองหลายแห่ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 นายกฯ ได้ไปทำพิธีลงเสาเอกสร้างบ้านมั่นคงที่ทางเข้ามหาวิทยาลัยรังสิต ตำหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานีด้วยการก่อสร้างบ้านเฟสแรกจำนวน  210  หลัง โดยมีเสียงคัดค้านจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  และนี่เป็นเพียงโครงการหนึ่งที่รัฐบาลจะจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับผู้บุกรุกริมคลองเปรมประชากรจำนวน 38 ชุมชน รวม 6,386 ครอบครัว โดยเปลี่ยนจากผู้ที่บุกรุกเป็นผู้อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย <1>

 

ความผิดของโครงการบ้านมั่นคง

            ความผิดพลาดของรัฐที่นำไปสู่การล้มเลิกโครงการบ้านมั่นคง คลองเปรมประชากรหรือที่อื่น ได้แก่:

            1. การแปลงผู้กระทำผิดกฎหมายหรือผู้บุกรุกให้ถูกกฎหมายนี้ ผิดหลักการของกฎหมายเป็นอย่างยิ่ง ผู้บุกรุกเหล่านี้เอาเปรียบสังคมมาช้านานด้วยการบุกรุกปลูกบ้านในที่สาธารณะ เมื่อไม่อยู่เอง ก็ปล่อยเช่าบ้าง บุคคลเหล่านี้ควรละอาย พอและหยุดเอาเปรียบสังคมต่างหาก

            2. การนำที่ดินที่เป็นสมบัติของแผ่นดินของประชาชนโดยรวมมาให้กับกลุ่มผู้บุกรุกที่กระทำผิดกฎหมายนี้ ถือว่ารัฐกระทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงเสียเองหรือไม่ การจัดหาที่อยู่อาศัยแก่ประชาชนนั้นยังมีทางเลือกอื่นอีกมากมาย แต่รัฐบาลกลับไม่นำพา

            3. ที่ดินริมคลองเปรมประชากรนี้ แต่เดิมทางราชการมีดำริมานานแล้วว่าจะนำมาก่อสร้างถนนจากบางซื่อถึงรังสิตเพื่อเพิ่มพื้นที่การจราจรเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม <2>  การนำมาสร้างบ้านมั่นคงนี้จึงเป็นการทำลายผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนโดยรวม

            4. การนำงบประมาณแผ่นดินไปให้ผู้บุกรุกที่ผิดกฎหมายมานานใช้เพื่อช่วยเหลือในการรื้อย้าย  สร้างที่อยู่อาศัยชั่วคราว  เป็นค่าเดินทางไปทำงาน  และสร้างบ้านใหม่ เป็นสิ่งที่รัฐสามารถทำได้หรือไม่ ถือเป็นการกระทำที่ทุจริตหรือไม่

            5. การสร้างบ้านมั่นคงนี้ยังเป็นการทำลายคลองเปรมประชากร แทนที่จะรื้อบ้านที่บุกรุกริมคลองและทำลายสิ่งแวดล้อม กลับสร้างเขื่อนล้ำเข้าไปในแนวคลอง ทำให้คลองมีขนาดเล็กลง ต่อไปการระบายน้ำก็จะมีประสิทธิภาพต่ำลง หากเกิดน้ำท่วมก็จะสร้างปัญหาอย่างแสนสาหัสแก่ประชาชนส่วนใหญ่ยิ่งกว่าที่เคยเกิดขึ้นในปี 2528, 2535 และ 2554

 

ความเสียหายของงบประมาณและความไม่คุ้มค่า

            การส่งเสริมการทำผิดกฎหมายโดยบ้านมั่นคงนี้ไม่คุ้มค่าและสร้างความเสียหายแก่งบประมาณแผ่นดิน รัฐเอาที่ดินให้ผู้บุกรุกเช่าเพียงตารางวาละ 2.25 บาทต่อเดือนเป็นเวลาถึง 30 ปี ใช้งบประมาณแผ่นดินไปนับพันๆ ล้านบาท เฉพาะโครงการนี้ใช้เงิน 118 ล้านสำหรับ 210 หลัง หรือหลังละ 560,000 บาท ถ้าทำทั้งหมด 6,386 ครอบครัว (สร้างจริงถึง 8,000 หน่วยเพื่อครอบครัวขนาดใหญ่ด้วย) ก็คงสิ้นเงิน 4,500 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมงบประมาณอื่นที่ทุ่มลงไปทำเพื่อโครงการนี้ เช่นที่คลองลาดพร้าว รัฐก็ให้ผู้บุกรุกเช่าที่ดินปีละ  100 บาทและมีเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 147,000 บาทเพื่อใช้ในการรื้อย้าย  สร้างที่อยู่อาศัยชั่วคราว  เป็นค่าเดินทางไปทำงาน  และสร้างบ้านใหม่  โดยมีสินเชื่อให้กู้รายละ 330,000-360,000 บาท  และผ่อนเดือนละ 1,000-3,000 บาท <3>

            แต่สำหรับผู้บุกรุกเหล่านี้ กลับสามารถผ่อนบ้านที่รัฐสร้างให้เพียงเดือนละ 2,579 บาท  ระยะเวลาผ่อน 20 ปี ซึ่งเป็นอัตราที่เอาเปรียบสังคมเป็นอย่างยิ่ง  ในระหว่างนั้นพวกนี้ก็อาจปล่อยเช่าหรือเซ้งต่อ เช่น กรณีแฟลตดินแดงในอดีตได้อีก  นี่จึงเป็นการสร้างความไม่เป็นธรรมในสังคมเป็นอย่างยิ่ง  ผู้บุกรุกที่กระทำผิดกฎหมาย กลับได้รับการปรนเปรอต่างๆ นานา  สังคมอาจมองว่าการสร้างบ้านมั่นคงในลักษณะนี้เป็นการหาเสียงการเมือง (ล่วงหน้า)

 

ทางเลือกอื่นที่ไม่สร้างความเสียหายต่อชาติ

            ในการจัดหาที่อยู่อาศัยแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยยังมีทางเลือกอื่นที่สามารถทำได้ดีกว่า ดังนี้:

            1. รัฐบาลสามารถไปเช่าหอพัก อะพาร์ตเมนต์ในราคาถูกๆ เพียงเดือนละ 2,500-3,000 บาท หรืออาจเช่าตึกแถวที่ไม่มีผู้ใช้งานที่มีอยู่จำนวนมากในย่านนี้มาให้แก่ผู้บุกรุกแยกย้ายไปอยู่อาศัยเป็นเวลา 5 ปีเพื่อให้พวกเขาเตรียมตัวเข้าสู่สังคมปกติ เลิกเอาเปรียบสังคม และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนโดยรอบอีกด้วย ส่วนผู้สูงวัยหรือไม่สามารถช่วยตนเองได้ ก็อาจจัดหาสถานสงเคราะห์เพื่อดูแลเป็นพิเศษ

            2. ในกรณีจะจัดหาที่อยู่อาศัยให้ไปอยู่ร่วมกัน รัฐก็อาจจัดซื้อหรือเช่าที่ดินในบริเวณใกล้เคียงให้ผู้บุกรุกได้อยู่อาศัย ที่ผ่านมาการเคหะแห่งชาติและสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ก็ใช้วิธีการนี้แทนที่จะนำที่ดินของแผ่นดินไปใช้ประโยชน์แบบมักง่ายเช่นนี้

            3. ในการสร้างบ้านมั่งคงในโครงการนี้ใช้ที่ดิน 23 ไร่สำหรับ 485 ครัวเรือน ก็เท่ากับว่าในพื้นที่ 1 ไร่ ใช้อยู่อาศัยได้เพียง 21 ครัวเรือน หากรัฐบาลนำที่ดินไปสร้างเป็นแฟลตเพียง 5 ชั้น ก็อาจสามารถรองรับคนจนในบริเวณใกล้เคียงมาอยู่อาศัยได้อีก 2,000 ครอบครัว แต่รัฐบาลกลับ “ประเคน” ให้กับผู้บุกรุกเหล่านี้เท่านั้น ถือเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่

 

ข้อเสนอแนะ

            1. รัฐหยุดสร้างบ้านมั่นคงในลักษณะนี้ทั้งหมดเพื่อไม่ให้ถูกครหาว่าเป็นการซื้อเสียง ใช้เงินผิดกฎหมาย และเอื้อประโยชน์ต่อผู้กระทำผิดกฎหมาย ย่ำยีชาวชุมชนในบริเวณใกล้เคียง

            2. นำพื้นที่ริมคลองเปรมประชากรมาก่อสร้างถนนจากบางซื่อสู่รังสิตดังที่เคยมีนโยบายไว้ในอดีต เพื่อเพิ่มพื้นที่การจราจรให้มากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรแออัดโดยเฉพาะในด้านเหนือของกรุงเทพมหานคร

            3. ควรสอบสวนสิทธิ์ว่าการสร้างบ้านเกินกว่าจำนวนครัวเรือนเช่นนี้เอื้อประโยชน์ให้แก่คนภายนอกอย่างผิดกฎหมายด้วยหรือไม่

            4. ควรหาผู้รับผิดชอบความเสียหายด้านงบประมาณที่เกิดขึ้นนี้ เพื่อนำเงินภาษีคืนสู่แผ่นดิน

 

            ช่วยกันกระทุ้งเพื่อประเทศชาติ ประชาชน และอย่าให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย

 

สร้างบ้านริมคลองให้พวกกฎหมู่ผิดกฎหมาย ผิดมหันต์ น่าละอาย https://fb.watch/mqQpkBcuFB/ .



สร้างบ้านริมคลองให้พวกกฎหมู่ผิดกฎหมาย ผิดมหันต์ น่าละอาย https://vt.tiktok.com/ZSLbHUtFH/ .


 

สร้างบ้านริมคลองให้พวกกฎหมู่ผิดกฎหมาย ผิดมหันต์ น่าละอาย https://youtu.be/VU_AVz_Svbc .

 

อ่าน 1,100 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved