ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่ กันยายน 2566 ว่าจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบถึง 67% บ้านเดี่ยวราคาแพงขายได้ค่อนข้างดี แต่ยอดขายเฉลี่ยโดยรวมตกต่ำสุดในรอบ 9 เดือนแรกของปี โดยขายได้เพียง 9.3% ต่อเดือน

            ภาพรวมโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในเดือนกันยายน 2566 รวม 48 โครงการ เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจำนวน 9 โครงการ  เป็นกลุ่มที่อยู่อาศัย 46 โครงการ และอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นอีก 2 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายเปิดใหม่รวม 7,168 หน่วย มูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 49,870 ล้านบาท  

            จำนวนหน่วยอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 7,168 หน่วย ซึ่งร้อยละ 87 ยังคง เป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทในเครือ ในเดือนนี้พบว่า เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 16 บริษัท คือ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) บมจ.แอสเสทไวส์ บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ บมจ.เนอวานา ดีเวลล็อปเม้นท์ บมจ.ปริญสิริ บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท บมจ.สิงห์ เอสเตท บมจ.ไซมีส แอสเสท บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ บมจ.แสนสิริ และบมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป

            ประเภทที่อยู่อาศัยที่เปิดใหม่ในเดือนนี้ บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนหน่วยใกล้เคียงกัน โดยเป็นทาวน์เฮ้าส์จำนวน 2,431 หน่วย (33.9%) รองลงมา คือ บ้านเดี่ยวจำนวน 2,388 หน่วย (33.3%) ส่วนอันดับ 3 คือ อาคารชุด จำนวน 1,724 หน่วย (24.1%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มสินค้าระดับราคาไม่เกิน 3.0 ล้านบาท มีหน่วยขายรวมมากถึง 49.7% และอีกกลุ่มหนึ่ง คือ สินค้าที่ระดับราคาตั้งแต่ 5.0 ล้านบาทนขึ้นไปมีหน่วยรวม 33.4%  หากเป็นบ้านเดี่ยว จะเน้นที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ที่ราคา 2-3 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดจะเน้นที่ราคา 1-2 ล้านบาท เป็นสำคัญ

            ในด้านมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนกันยายน 2566 นี้ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 49,870 ล้านบาท ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือ บ้านเดี่ยว คิดเป็น 69.9% รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 13.3% ส่วนอันดับ 3 คือ อาคารชุด  8.7% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ราคาขายต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยประมาณ 6.957 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากถึง 22.3% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ย 5.689 ล้านบาท ซึ่งในเดือนนี้แสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงมากขึ้น  

            ด้านอัตราการขายพบว่า ในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 9.3% ซึ่งลดลงจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 14.7% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุด และมีจำนวนหน่วยขายเป็นส่วนใหญ่ของตลาด คือ บ้านเดี่ยว ระดับราคา >20 ล้านบาท จำนวน 445 หน่วย ขายได้แล้ว 95 หน่วย (21.3%) รองลงคือ ทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 1,874 หน่วย ขายได้แล้ว 239 หน่วย (12.8%)

            ในด้านทำเลที่ตั้ง (โปรดดูแผนที่) สำหรับอาคารชุดเปิดใหม่จะตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ชั้นกลางและส่วนต่อขยายตามแนวสถานีรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ เช่น ลาดพร้าว ศรีนครินทร์และสุขุมวิทตอนปลาย ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการเปิดใหม่จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ส่วนต่อขยายเมือง เช่น ลาดพร้าว กรุงเทพกรีฑา ลาดกระบัง บางนา ประชาอุทิศ ปิ่นเกล้า บางกรวย-ไทรน้อย และยังมีพื้นรอบนอก เช่น รังสิต ลำลูกกา กาญจนาภิเษก (ฝั่งตะวันตก) สมุทรปราการ เป็นต้น