โครงการอสังหาฯเปิดใหม่ธันวาคม 2566 ลดลงกว่าครึ่งหนึ่งของเดือนพฤศจิกายน 2566 รวมทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าโครงการก็ลดลง แต่ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยกลับสูงที่สุดในรอบปี ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ชี้ให้เห็นว่าตลาดยังคึกคักต่อเนื่อง
ดร.โสภณ สรุปข้อมูลโครงการอสังหาฯ เปิดใหม่ธันวาคม 2566 ว่ามีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัว 30 โครงการ ลดลงกว่าครึ่งหนึ่งของเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่มีโครงการเปิดขายใหม่ถึง 60 โครงการ ส่งผลให้จำนวนหน่วยขาย มูลค่าโครงการลดลงตามไปด้วย แต่ราคาเฉลี่ยต่อหน่วยกลับเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยจำนวนหน่วยขายเปิดใหม่รวม 5,477 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 48,668 ล้านบาท
จำนวนหน่วยอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 5,447 หน่วย ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ประมาณ -56.2% เนื่องจากเป็นเดือนสุดท้ายของปีที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง โครงการจึงเปิดตัวน้อยลง โดยโครงการบ้านเดี่ยวเปิดตัวมากเป็นอันดับหนึ่ง 49.2% รองลงมาคือทาวน์เฮ้าส์ 19.8% และอันดับสามเป็นอาคารชุด 18.4% ในด้านจำนวนหน่วย
ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุดในเดือนนี้ คือ บ้านเดี่ยวมีมูลค่า 36,619 ล้านบาท คิดเป็น 79.4% รองลงมา คือ ทาวเฮ้าส์ 4,222 ล้านบาท 8.7% ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านแฝด 3,298 ล้านบาท 6.8% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ดังนั้นภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ส่วนใหญ่หากเป็นบ้านเดี่ยว จะเน้นที่ระดับราคา 10-20 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ที่ราคา 2-3 ล้านบาท ส่วนบ้านแฝดจะเน้นที่ราคา 3-5 ล้านบาท สำหรับอาคารชุดในเดือนนี่เปิดตัวลดลงจากเดือนที่แล้วค่อนข้างมาก และจะเน้นพัฒนาที่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท เป็นสำคัญ
เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ พบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 13 บริษัท คือ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) บมจ.แอสเสทไวส์ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ บมจ. ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บมจ.ไอทาวน์ โฮลดิ้ง บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บมจ.ศุภาลัย บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา บมจ.แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป และ บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ปนอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป
ในด้านทำเลที่ตั้งที่มีการเปิดขายใหม่สำหรับอาคารชุดจะตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ชั้นกลาง พื้นที่ใกล้สถานศึกษา และส่วนต่อขยายตามแนวสถานีรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ เช่น แนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีเขียวเข้ม ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการเปิดใหม่จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ส่วนต่อขยายเมือง เช่น บริเวณบางใหญ่ บางบัวทอง ลำลูกกา วัชรพล ศรีนครินทร์ บางนา เทพารักษ์ ประชาอุทิศ พระราม 2 สมุทรสาคร ศาลายา และราชพฤกษ์ เป็นต้น