ในปี 2567 ทำเลและประเภทสินค้าขายดีที่พึงพิจารณา เพื่อประกอบการลงทุนมีอยู่ 20 แห่ง ซึ่งหากพัฒนาตามทำเล ประเภทและระดับราคานี้น่าจะประสบความสำเร็จได้ด้วยดี
จากการสำรวจของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์สพบว่าทำเลและประเภทสินค้าที่อยู่อาศัยที่มีอนาคตที่ดี 20 แห่ง โดยส่วนมากเป็นการขายห้องชุดเป็นหลัก และมีบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวบางส่วนเท่านั้นที่น่าจะขายดี ทำเลเหล่านี้จึงถือเป็นทำเลที่มีอนาคต
ทำเลอันดับแรก A2 : บางขัน คลองหลวง โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาถูก ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดรวม 2,197 หน่วย ปรากฏว่าขายไปแล้ว 1,926 หน่วย และเหลืออยู่จำนวนเพียง 271 หน่วย โดยขณะนี้ขายไปได้แล้วถึง 3,779 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ราว 67.5% ดังนั้นหากนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูงสุด
ทำเลอันดับที่ 2 A2 : บางขัน คลองหลวง โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาค่อนข้างถูก โดยมีอยู่ทั้งหมดรวม 1,040 หน่วย ปรากฏว่าขายไปแล้วรวม 819 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนเพียง 221 หน่วย โดยขณะนี้ขายไปได้แล้วราว 2,325 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ 62.9% ฉะนั้น นักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูงสุด
ทำเลอันดับที่ 3 G5 : ลาดกระบัง โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาถูก โดยหน่วยขายมีอยู่ทั้งหมดรวม 135 หน่วย ทั้งนี้ขายไปแล้วรวม 83 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวน 52 หน่วย และขณะนี้ขายไปได้แล้วราว 184 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ถึง 61.5% ดังนั้นเมื่อนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูงสุด
ทำเลอันดับที่ 4 A4 : รังสิตคลอง 1-7 โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 0.500-1.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาถูกเป็นพิเศษ โดยหน่วยขายรวมอยู่ทั้งหมด 1,461 หน่วย โดยปรากฏว่าขายไปแล้ว 992 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนเพียง 469 หน่วย และขณะนี้ขายไปได้แล้วประมาณ 1,132 ล้านบาท อาจกล่าวได้ว่าเดือนหนึ่งๆ ขายได้ถึง 30.2% ฉะนั้นหากนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูงสุด
ทำเลอันดับที่ 5 D2 : สะพานใหม่ โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาค่อนข้างถูก ทั้งนี้มีอยู่ทั้งหมดรวม 1,661 หน่วย ปรากฏว่าขายไปแล้ว 654 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนรวม 1,007 หน่วย โดยขณะนี้ขายไปได้แล้วถึง 4,317 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้สูงถึง 28.4% ดังนั้น นักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูงมาก
ทำเลอันดับที่ 6 A4 : รังสิตคลอง 1-7 โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาถูก ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดรวม 814 หน่วย ปรากฏว่าขายไปแล้วรวม 530 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนเพียง 284 หน่วย โดยขณะนี้ขายไปได้แล้วราว 1,220 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ราว 28.3% ดังนั้นเมื่อนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูงมาก
ทำเลอันดับที่ 7 C3 : พิบูลสงคราม โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาถูก โดยมีอยู่ทั้งหมดรวม 83 หน่วย ทั้งนี้ขายไปแล้วรวม 45 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวน 38 หน่วย และขณะนี้ขายไปได้แล้วราว 114 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ 26.7% ฉะนั้นเมื่อนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูงมาก
ทำเลอันดับที่ 8 M4 : นครไชยศรี โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาค่อนข้างถูก โดยหน่วยขายมีอยู่ทั้งหมดรวม 772 หน่วย โดยปรากฏว่าขายไปแล้ว 418 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวน 354 หน่วย และขณะนี้ขายไปได้แล้วประมาณ 1,845 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ถึง 22.7% ดังนั้น นักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูง
ทำเลอันดับที่ 9 E5 : ฉลองกรุง โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาค่อนข้างถูก โดยหน่วยขายรวมอยู่ทั้งหมด 76 หน่วย ปรากฏว่าขายไปแล้ว 55 หน่วย และเหลืออยู่จำนวนเพียง 21 หน่วย โดยขณะนี้ขายไปได้แล้วถึง 211 ล้านบาท อาจกล่าวได้ว่าเดือนหนึ่งๆ ขายได้ถึง 21.4% ฉะนั้นมื่อนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูง
ทำเลอันดับที่ 10 E5 : ฉลองกรุง โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาถูก ทั้งนี้มีอยู่ทั้งหมดรวม 931 หน่วย ปรากฏว่าขายไปแล้วรวม 660 หน่วย และเหลืออยู่จำนวนเพียง 271 หน่วย โดยขณะนี้ขายไปได้แล้วราว 1,605 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้สูงถึง 20.3% ดังนั้นเมื่อนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูง
ทำเลอันดับที่ 11 E1 : หทัยราษฎร์ โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ บ้านแฝด ณ ระดับราคา 5.001-10.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาสูง ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดรวม 227 หน่วย ทั้งนี้ขายไปแล้วรวม 66 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนรวมถึง 161 หน่วย และขณะนี้ขายไปได้แล้วราว 1,478 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ราว 20.3% ดังนั้น นักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูง
ทำเลอันดับที่ 12 N1 : พระราม 5 - บางกรวย โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาถูก โดยมีอยู่ทั้งหมดรวม 545 หน่วย โดยปรากฏว่าขายไปแล้ว 222 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนรวมถึง 323 หน่วย และขณะนี้ขายไปได้แล้วประมาณ 714 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ 20.0% ด้วยเหตุนี้เมื่อนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูง
ทำเลอันดับที่ 13 L2 : บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่ โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 5.001-10.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาสูง โดยหน่วยขายมีอยู่ทั้งหมดรวม 72 หน่วย ปรากฏว่าขายไปแล้ว 42 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนเพียง 30 หน่วย โดยขณะนี้ขายไปได้แล้วถึง 428 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ถึง 19.4% ดังนั้นหากนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูง
ทำเลอันดับที่ 14 D2 : สะพานใหม่ โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 3.001-5.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาปานกลาง โดยหน่วยขายรวมอยู่ทั้งหมด 337 หน่วย ปรากฏว่าขายไปแล้วรวม 125 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนรวมถึง 212 หน่วย โดยขณะนี้ขายไปได้แล้วราว 1,225 ล้านบาท อาจกล่าวได้ว่าเดือนหนึ่งๆ ขายได้ถึง 19.1% ดังนั้น นักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูง
ทำเลอันดับที่ 15 B5 : งามวงศ์วาน โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ บ้านแฝด ณ ระดับราคา 5.001-10.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาสูง ทั้งนี้มีอยู่ทั้งหมดรวม 32 หน่วย ทั้งนี้ขายไปแล้วรวม 12 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนรวม 20 หน่วย และขณะนี้ขายไปได้แล้วราว 281 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้สูงถึง 18.8% ฉะนั้นเมื่อนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จสูง
ทำเลอันดับที่ 16 G2 : พัฒนาการ โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาถูก ซึ่งมีอยู่ทั้งหมดรวม 376 หน่วย โดยปรากฏว่าขายไปแล้ว 95 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนรวม 281 หน่วย และขณะนี้ขายไปได้แล้วประมาณ 665 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ราว 17.7% ดังนั้นหากนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง
ทำเลอันดับที่ 17 G2 : พัฒนาการ โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 3.001-5.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาปานกลาง โดยมีอยู่ทั้งหมดรวม 332 หน่วย ทั้งนี้ขายไปแล้วรวม 71 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนรวมถึง 261 หน่วย โดยขณะนี้ขายไปได้แล้วถึง 1,404 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ 17.6% ฉะนั้นนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง
ทำเลอันดับที่ 18 G2 : พัฒนาการ โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาค่อนข้างถูก โดยหน่วยขายมีอยู่ทั้งหมดรวม 1,589 หน่วย โดยปรากฏว่าขายไปแล้ว 348 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนรวมถึง 1,241 หน่วย โดยขณะนี้ขายไปได้แล้วราว 3,698 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้ถึง 17.6% ด้วยเหตุนี้เมื่อนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จค่อนข้าง
ทำเลอันดับที่ 19 F2 : รัชโยธิน โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ห้องชุด ณ ระดับราคา 5.001-10.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาสูง โดยหน่วยขายรวมอยู่ทั้งหมด 570 หน่วย ปรากฏว่าขายไปแล้ว 193 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนรวมถึง 377 หน่วย และขณะนี้ขายไปได้แล้วราว 3,583 ล้านบาท อาจกล่าวได้ว่าเดือนหนึ่งๆ ขายได้ถึง 17.5% เหตุนี้หากนักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง
ทำเลอันดับสุดท้าย D5 : วัชราพล-คู้บอน โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ บ้านเดี่ยว ณ ระดับราคา >20.000 ซึ่งถือเป็นสินค้าราคาสูงเป็นพิเศษ ทั้งนี้มีอยู่ทั้งหมดรวม 187 หน่วย ปรากฏว่าขายไปแล้วรวม 67 หน่วย โดยเหลืออยู่จำนวนรวม 120 หน่วย และขณะนี้ขายไปได้แล้วประมาณ 7,110 ล้านบาท หรือเดือนหนึ่งๆ ขายได้สูงถึง 15.4% สรุปแล้ว นักพัฒนาที่ดินไปพัฒนาในย่านนี้ น่าจะประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง
อาจกล่าวได้ว่าทำเลที่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีหรือมีทางด่วน และมีการพัฒนาที่ไม่ไกลใจกลางเมืองเกินไป ก็น่าจะประสบความสำเร็จได้