21 และ 23 กุมภาพันธ์นี้ ผมจัดสัมมนาใหญ่ เพื่อเผยแพร่ความรู้ (ที่สำคัญแต่ในราคาถูก) และหาทุนเพื่อนำมาใช้ในกิจกรรมสาธารณะของสมาคมและมูลนิธิ แต่เป็นเรื่องที่ชาวอสังหาริมทรัพย์ต้องรู้
ทั้งนี้ในวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ผมจัดสัมมนาใหญ่เรือง “การค้าอสังหาริมทรัพย์-ข้อมูลเพื่อการวางแผนภาครัฐและภาคเอกชน” โดยงานนี้จัดร่วมกันระหว่างสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI-THAI) มูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย และศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 3 อาคารไทยเบฟควอเตอร์ (อาคารตลาดหลักทรัพย์เดิม) ข้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
งานนี้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 12:00 น. และในเวลา 13:00 น. ท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาเป็นประธานพิธีเปิดงานและแสดงปาฐกาพิเศษ “นโยบายรัฐบาลกับการพาณิชย์ไทย” ทั้งนี้สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล เป็นสมาคมที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์โดยตรง และท่านรองนายกฯ ให้ความเมตตามาเปิดงานเองเล
หลังจากนั้น จะมีการนำเสนอข้อมูลการค้าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพัฒนาชาติ โดยนำเสนอเรื่องสำคัญๆ ที่ต้องรู้ได้แก่
- สรุปสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ล่าสุดและทิศทางปี 2567
- สถานการณ์การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติเปรียบเทียบกับทั่วโลก
- แนวนโยบายการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์: กรณีเปรียบเทียบทั่วโลก
- นวัตกรรมการวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์เพื่อการวางผังเมืองในเชิงสากล
- ทิศทางการปรับตัวและวางกลยุทธ์สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์และภาครัฐบาล
- มาตรการเชิงพาณิชย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและอสังหาริมทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้นำเสนอโดยผมเอง ดร.โสภณ พรโชคชัย และคณะนักวิจัยศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ต่อด้วยการอภิปรายของผู้ทรงคุณวุฒิ เช่น ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการ บมจ.ศุภาลัย และประธานที่ปรึกษามูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย คุณขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไซมิส แอสเสท และสมาชิกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล
คณะผู้จัดงานนี้ขึ้นมุ่งให้ประโยชน์แก่นักพัฒนาที่ดิน สถาบันการเงิน นายหน้า ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ และได้เชิญทางราชการมาหลากหลาย เช่น กระทรวงมหาดไทย (เช่น กรมที่ดิน กรมโยธาฯ ) กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง การทางพิเศษฯ ฯลฯ) กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ฯลฯ) กระทรวง พ.ม. และอื่นๆ ตลอดจนองค์กรอิสระ สถาบันการเงินทุกแห่ง สมาคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้มีข้อมูลเพื่อการวางแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาธุรกิจและพัฒนาประเทศ มากระทบไหล่เหล่าผู้นำในวงการกัน
สำหรับท่านผู้สนใจก็สามารถเข้าร่วมงานได้ โดยเสียค่าใช้จ่าย 1,900 บาท พร้อมได้เป็นสมาชิกมูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทยฟรี 1 ปี ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.trebs.ac.th/t/172
อีกงานหนึ่งที่ขอแนะนำก็คืองานสัมมนา “ส่องทำเลทอง ในผังเมืองฉบับใหม่” ซึ่งจะจัดในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09:00 - 16:00 น. จัดโดยหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมผู้ซื้อบ้าน สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล มูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย และศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
งานนี้จัดทั้งวัน ณ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร โดยมุ่งชี้ถึงทำเลทองในผังเมืองใหม่กรุงเทพมหานคร 2568 VS หลุมดำอันตราย ทั้งนี้มุ่งวิเคราะห์ว่าในผังเมืองใหม่นี้มีทำเลทองที่จะโดดเด่นพุ่งกระฉูดซ่อนอยู่ตรงไหนบ้าง โอกาสสำคัญของทำเลทอง มีหลุมดำอันตรายที่ไม่ควรซื้อที่ดินไปพัฒนาอยู่ตรงจุดไหน หากไม่เห็นด้วยกับร่างผังเมืองรวม จะไปขอแก้ไขได้อย่างไร
09:00 เปิดการเสวนา
09:15 ผังเมืองใหม่กรุงเทพมหานคร 2568 มิติสำหรับนักลงทุน โดย อ.ภูวสิทธิ์ พนมสิงห์ เจ้าของเพจ "ขอบอสัง"
10:00 รับประทานเครื่องดื่ม/เครื่องเคียง
10:15 ประชาชนจะรับมือผังเมืองอย่างไร-แนวทางการขอแก้ไขการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดย ดร.จรัสโรจน์ บถดำริห์ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี สถาปนิกและผู้เชี่ยวชาญด้านการผังเมือง
11:00 ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยกับผังเมืองใหม่: สอดคล้อง-ขัดแย้งอย่างไร โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
12:00 รับประทานอาหารกลางวัน
13:00 30 ทำเลทองในผังเมืองกรุงเทพมหานคร 2568 ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยและคณะนักวิจัย
14:00 จุดบอด-ทำเลอันตรายในผังเมืองรวม 2568
15:00 รับประทานเครื่องดื่ม/เครื่องเคียง
15:15 การใช้โปรแกรมในการวิเคราะห์ผังเมืองรวม อ.น้ำทิพย์ ลออนวล กรรมการผู้จัดการ บจก.แอเรีย รีเสิร์ช Feasy โปรแกรมวิเคราะห์การลงทุนอสังหาฯ
16:00 จบการสัมมนา
ท่านที่สนใจสามารถลงทะเบียน (ค่าลงทะเบียนเพียง 2,000 บาท รวมอาหารกลางวันและเครื่องดื่ม เครื่องเคียงแล้ว) ได้โดยตรงที่ https://www.trebs.ac.th/t/173
ความรู้ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของใคร (Knowledge Is Not Private Property) ต้องแบ่งปันกันครับ แถมได้ทำดีเพื่อนำรายได้ไปใช้เพื่อประโยชน์ของสมาคม-มูลนิธิที่เกี่ยวข้องต่อไป