ในเดือนนี้มีจำนวนโครงการเกิดใหม่รวมทั้งสิ้นจำนวน 21 โครงการ และมีจำนวนมากกว่าเดือนที่ผ่านมาจำนวน 1 โครงการ โดยลักษณะการพัฒนาโครงการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยเป็นสำคัญ ส่วนอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ มีอยู่เพียง 1 โครงการเท่านั้น ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดนี้มีจำนวนหน่วยรวมทั้งสิ้น 4,314 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 20,691 ล้านบาท
          จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมดรวมจำนวน 4,314 หน่วย ประเภทที่มีการพัฒนามากที่สุดอันดับ 1 คือ อาคารชุด โดยมีจำนวนหน่วยที่เปิดขายใหม่มากถึง 2,474 หน่วย หรือประมาณ 57.3% ของจำนวนหน่วยที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในตลาด ส่วนการพัฒนาลำดับรองลงมาคือ บ้านเดี่ยวมีการพัฒนาอยู่จำนวน 795 หน่วย หรือประมาณ 18.4% ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดใหม่ทั้งหมด ส่วนอันดับ 3 ที่มีการพัฒนาคือทาวน์เฮ้าส์ มีหน่วยขายอยู่จำนวน 758 หน่วย หรือประมาณ 17.6% ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ซึ่งลักษณะการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้อาคารชุดก็กลับมาแซงหน้าที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบอีกครั้ง โดยเดือนที่ผ่านมา (สิงหาคม 2552) มีการพัฒนาทาวน์เฮ้าส์มากที่สุด แต่ในเดือนนี้จะเน้นการพัฒนาอาคารชุดในเมืองเป็นสำคัญ โดยเฉพาะในเขต Prime Area และใกล้สถานีรถไฟฟ้า และได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่สนใจจองซื้อในอัตราที่สูง หรือบางโครงการอาจจะขายหมดภายในเวลาไม่ถึงเดือน ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ ก็ยังมีการพัฒนาในสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยอยู่
          หากพิจารณามูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนกันยายน 2552 นี้มีจำนวนทั้งสิ้น 20,691 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าเดือนที่ผ่านมาจำนวน 6,521 ล้านบาท (เดือนสิงหาคม 2552 มีมูลค่า 14,170 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาจะเน้นพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูง และราคาสูงเป็นสำคัญ คือที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท และที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 ระดับราคานี้มีจำนวนหน่วยขายในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คือ มีจำนวน 1,366 หน่วย (31.7%) และจำนวน 1,355 หน่วย (31.4%) ตามลำดับ
          อย่างไรก็ตามหากพิจารณาถึงมูลค่าโครงการโดยรวมจะสูงกว่าเดือนที่ผ่านมาประมาณ 50% และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยสูงกว่าด้วย เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้ถึงแม้จะมีจำนวนหน่วยขายน้อยกว่าเดือนที่ผ่านมาจำนวน 114 หน่วย (เดือนสิงหาคม 2552 มีจำนวนหน่วยขาย 4,428 หน่วย) แต่ในเดือนนี้ราคาขายส่วนใหญ่ประมาณ 68% จะมีระดับราคาเกิน 3.000 ล้านบาทขึ้นไป จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาขายเฉลี่ยที่ประมาณ (4.796 ล้านบาทต่อหน่วย) ซึ่งเดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 3.200 ล้านบาทต่อหน่วย ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่เน้นระดับราคาค่อนข้างสูงเป็นสำคัญ
          เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์เป็นสำคัญ 8 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 โครงการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 โครงการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 โครงการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 โครงการ บริษัท ณุศาศิริแกรนด์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 โครงการ บริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 โครงการ บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 โครงการ และ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 โครงการ และมีบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ในเครือของบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์อีก เช่น บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และ บริษัท คาซ่าวิลล์ จำกัด นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทที่อยู่ในเครือทั่วไปที่ไม่ใช่บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์อีกจำนวนหนึ่ง