อ่าน 4,853 คน
AREA แถลง ฉบับที่ 157/2557: 13 ตุลาคม 2557
เยอรมันอันตรายทั้งบ่อน ซ่อง นิวเคลียร์???

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
sopon@area.co.th

          เยอรมนีเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ชั้นยอดของโลก แต่ทำไมจึงมีบ่อน ซ่องและนิวเคลียร์มากมาย กระทั่งว่าใครกลัวนิวเคลียร์จน "ขี้ขึ้นสมอง" ไม่ควรไปเที่ยวเด็ดขาด!!! ท่านเชื่อหรือไม่เยอรมนีกลับเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านวัตถุและจิตใจ
          ผมพาคณะนักพัฒนาที่ดินชั้นนำทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุน นายธนาคาร ฯลฯ ราว 45 ท่านไปดูงานอสังหาริมทรัพย์ที่เยอรมนีในระหว่างวันที่ 17-24 กันยายน ศกนี้ จึงขออนุญาตนำเสนอถึงความเจริญรุ่งเรืองของเยอรมนี เทียบกับความเจริญรุ่งริ่งของประเทศไทยสักหน่อยนะครับ

การพนันถูกกฎหมาย
          ในเยอรมนี การพนันถูกกฎหมาย มีศูนย์การพนันถึง 76 แห่งทั่วประเทศ โดยนครที่มีกาสิโนมากที่สุดคือฮัมบูร์ก ส่วนบ่อนที่ใหญ่ที่สุดคือ Casino Hohensyburg ในนครดอร์ทมุนด์ คนเยอรมันสามารถเข้ากาสิโนได้ แต่ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น บางแห่งต้องเสียค่าเข้าใช้สถานที่ด้วย และยังต้องทำสัญญาใช้หนี้ที่อาจเกิดขึ้นจากการเล่นการพนันไว้ล่วงหน้าด้วย แต่ละกาสิโนจะมีเครื่องเล่นประมาณ 80-150 เครื่อง นอกจากนี้ในเยอรมนียังมีการพนันขันต่อต่างๆ เช่นเดียวกับในอังกฤษและประเทศอื่น รวมทั้งยังมีการแข่งม้า
          การที่การพนันเป็นสิ่งถูกกฎหมาย ทำให้มีรายได้เข้ารัฐทั้งจากบ่อนการพนัน จากผู้ที่เล่นแล้วได้กำไร (ประมาณ 5% ของรายได้) และยิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้มีการเปิดการเล่นพนันแบบออนไลน์ ก็ยิ่งได้ภาษีเข้ารัฐมากขึ้น การเปิดให้มีการเล่นการพนันนั้นไม่ได้ทำให้เกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้น แต่กลับมีอาชญากรรมลดลง จะสังเกตได้ว่าที่มาเก๊า ฮ่องกง นครเรโน นครลาสเวกัสหรือนครการพนันอื่นใด ก็ไม่ปรากฏว่าชาวบ้านติดการพนันงอมแงม เพราะคนที่มาเล่นส่วนใหญ่ก็คือนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่มีสติในการเล่น ไม่ใช่ลักลอบเล่นแบบบ้านเรา ซึ่งมีผู้ได้ประโยชน์อยู่เบื้องหลัง
          ผมเคยไปประเมินที่ดินสร้างบ่อนการพนันในนครเวียงจันทน์ และไปสำรวจบ่อนในสะหวันนะเขต และอื่นๆ พบว่า ที่ดินที่ใช้ทำบ่อนการพนันนั้น มีราคาแพงมาก แพงกว่าที่นาในฝั่งไทยหลายสิบเท่า เพราะมีศักยภาพในการทำบ่อนได้อย่างถูกกฎหมายนั่นเอง

ขายตัว ซ่อง แมงดา ถูกกฎหมาย
          ท่านเชื่อหรือไม่ในเยอรมนีมีผู้ขายบริการทางเพศถึง 400,000 คน แต่ในประเทศนี้มีประชากรราว 80 ล้านคน รายได้จากบริการทางเพศนี้สูงถึง 240,000 ล้านบาทต่อปี พอๆ กับรายได้ของบริษัท Porsche และ Adidas ไม่เพียงแต่การขายบริการทางเพศจะถูกกฎหมาย ซ่องหรือ "สถานที่แลกเปลี่ยนวรยุทธ์" ก็ถูกกฎหมาย การจัดหาบริการทางเพศ (หรือคำไทยว่า "แมงดา" ซึ่งดูไม่ดี) ก็ถูกกฎหมายเช่นกัน 
          การทำให้ถูกกฎหมาย ทำให้สามารถควบคุมธุรกิจเหล่านี้ได้ ถ้าเห็นท่าไม่ดี ท้องถิ่นสามารถปิดสถานบริการได้ทันที ก่อนบริการทางเพศ ผู้ขายบริการทางเพศต้องแสดงหลักฐานการตรวจร่างกายว่าไม่เป็นโรคใด ๆ ต้องให้บริการได้ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีการคุ้มครองตามกฎหมาย ในแง่หนึ่งการปลดปล่อยทางเพศ ก็ทำให้ชีวิตครอบครัวไม่แตกร้าว  นอกจากนี้รัฐยังได้รายได้ทางภาษีมาเพื่อการแก้ปัญหาสังคมและพัฒนาประเทศได้อีกด้วย
          ผมประเมินราคาของกิจการอาบอบนวดในกรุงเทพมหานคร ปรากฏว่ามูลค่าของตัวที่ดินและอาคารของสถานอาบอบนวดนั้น ต่ำกว่ามูลค่าของกิจการอาบอบนวดยิ่งนัก ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็เช่น ห้อง ๆ หนึ่งหากใช้ห้องเช่าพักอาศัย (Apartment) อาจเช่าได้เดือนละ 10,000 บาท แต่ถ้าดัดแปลงเป็นโรงแรม อาจสร้างรายได้ถึง 30,000 บาท แต่หากเป็นสถานอาบอบนวด ห้องหนึ่งๆ จะสร้างรายได้ถึง 90,000 บาท

นิวเคลียร์เต็มเมือง
          ปัจจุบันนี้พลังงานที่ใช้ในเยอรมนี มาจากนิวเคลียร์ถึง 18% (ของไทย = 0%) จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถึง 18 แห่ง โดยก่อนหน้านี้สูงกว่านี้ แต่หลังจากการระเบิดที่ญี่ปุ่น ทำให้เยอรมนีก็ "เสียว" เหมือนกัน จึงลดการใช้นิวเคลียร์ลง และตั้งเป้าที่จะเลิกใช้ในอนาคต แต่อาจซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านแทน เช่น ฝรั่งเศส ซึ่งพลังงานส่วนใหญ่มาจากนิวเคลียร์ถึง 75% และยังสามารถส่งออกไฟฟ้าได้ด้วย นอกจากนี้เยอรมนียังตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินเพิ่มขึ้นอีกหลายแห่ง นอกเสียจากการผลิตพลังงานจากลม น้ำและแดด
          เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่เยอรมนีจะเลิกใช้นิวเคลียร์ ก็คือประเทศนี้ร่ำรวย จึงสามารถใช้พลังงานจากแหล่งอื่นที่มีต้นทุนสูงกว่าได้ อย่างไรก็ตามหากใครก็ตามที่กลัวนิวเคลียร์จน "ขี้ขึ้นสมอง" ไม่ควรไปยุโรป เพราะทั่วยุโรป มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถึง 185 แห่ง ทั้งนี้ฝรั่งเศส ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปมากที่สุดในโลกมีมากถึง 58 แห่ง สวิตเซอร์แลนด์ที่คนไทยชื่นชอบก็มีถึง 5 แห่ง หากยุโรปไม่มีนิวเคลียร์ ป่านนี้ก็คงไม่แลดูไร้มลพิษแต่จะสกปรกรกรุงรังเพราะพลังงานจากถ่านหินหรืออื่น ๆ ไปแล้ว
          ในแง่อสังหาริมทรัพย์ การที่เยอรมนีมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็ใช้ว่าราคาที่ดินรอบโรงไฟฟ้าจะลดลง ทั้งนี้เพราะเขาสามารถดูแลความปลอดภัยได้อย่างดีต่างจากที่ประเทศไทยของเรากลัว อันที่จริงถ้าเรากลัวนิวเคลียร์มาก เราก็อาจให้ช่างเทคนิคจากเยอรมนี ฝรั่งเศส หรืออังกฤษมาคุมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในไทยให้รู้แล้วรู้รอดไป ยิ่งกว่านั้นในอนาคต เวียดนามก็จะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกนับสิบแห่ง ล้วนตั้งอยู่ในระยะ 200-500 กิโลเมตรจากไทย หากระเบิดขึ้นมา ไทยก็คงไม่รอด!

แปลกชาวเยอรมันกลับมีอารยะ
          น่าแปลกที่ชาวเยอรมันกลับมีอารยธรรมอันสูงส่งทั้งที่มีทั้งบ่อน ซ่อง และนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเสื่อมที่จะให้มีไม่ได้ในประเทศไทย ผมไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในหลายเมืองในเยอรมนี ซึ่งมีแต่เครื่องขายตั๋วโดยไม่มีคนขายตั๋ว และไม่มีคนตรวจตอนเข้าชานชะลา (ยกเว้นมาสุ่มตรวจบนขบวนรถครั้งคราว) ชาวบ้านที่นั่นเขามี "หิริ โอตตัปปะ" ทั้งที่ไม่ใช่ชาวพุทธ แต่เป็นชาวคริสต์
          เมื่อปี 2529 ที่ผมไปเยอรมนีครั้งแรก ผู้คนดูเคร่งเครียด ไม่ทักทายกันเลย แต่เดี๋ยวนี้ผู้คนดูมีความสุขขึ้นกว่าเดิม ปัจจุบันนักศึกษาคราวลูก-หลานที่เดินทางไปศึกษาที่นั่นกลับพบแต่ผู้คนที่มีอัธยาศัยไมตรีดี ผมถามหญิงเยอรมนีที่นั่งอบซอนาด้วยกัน เธอบอกว่าสมัยนั้นยังมีความตึงเครียดทางการเมืองมาก แต่สมัยนี้ต่างกันไปแล้ว ผมลืมบอกไปว่าเธอผู้นี้ อบซอนาโดยไม่สวมใส่อะไรเลย ต่างจากผมที่ยังขี้อาย บางทีเธอคงข้ามพ้นเรื่องเหล่านี้แล้ว!
          สำหรับสถิติการฆ่าตัวตายของชาวเยอรมันมีเพียง 9.2 คน ณ ปี 2555 ลดลงจากปี 2543 ที่มีถึง 11.1 คน ต่อประชากร 100,000 คน ในขณะที่ไทยมี 11.4 คน ลดลงจากปี 2543 ที่มี 15.1 คน เยอรมนียังดีกว่าอีกหลายประเทศที่เจริญกว่าไทย เช่น ฝรั่งเศส เกาหลี ญี่ปุ่นที่สถิติการฆ่าตัวตายมีสูงกว่าไทย ในแง่หนึ่งแสดงว่าประเทศเหล่านี้มีความตึงเครียด แม้การฆ่าตัวตายจะไม่ดี เป็นบาป แต่เขาก็เลือกตัดสินใจเอง แต่ในแง่ตรงกันข้ามกลับพบว่า สถิติฆาตกรรมในประเทศเยอรมนีมีเพียง 35 คนต่อประชากร 100,000 คนในขณะที่ไทยสูงถึง 219 คน จะพบว่าในฝรั่งเศส ยุโรป อเมริกา เกาหลี ญี่ปุ่น มีสถิติฆาตกรรมต่ำกว่าไทย แต่ประเทศที่ด้อยความเจริญกว่าไทย เช่นกัมพูชา มีสถิติฆาตกรรมสูงกว่าไทย แสดงว่าเยอรมนีมีความปลอดภัยสูงกว่านั่นเอง

          โดยสรุปแล้ว การยอมรับความจริง การจัดการกับความจริงอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา ย่อมก่อให้เกิดความสงบสุขในสังคม ไม่ใช่ให้ใครมาฉกชิงทรัพยากรไปจากสังคม เช่น นายบ่อน ซ่อง แมงดาผิดกฎหมาย  เราต้องให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างเปิดเผยจะได้ไม่ตกอยู่ใต้การครอบงำของอวิชชา บ้านเมืองจึงจะเจริญ อสังหาริมทรัพย์จะได้มีค่าเพิ่มพูน

อ้างอิง

กาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในเยอมนี

สถานบริการทางเพศในเยอรมนี

ที่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยุโรป


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved