การเปลี่ยนแปลงของราคาบ้านในสหรัฐอเมริกา ซึ่งตั้งอยู่อีกซีกโลกหนึ่งตรงข้ามกับไทยนั้น แม้จะอยู่ห่างไกลกันมาก แต่ก็มีความสำคัญในการจับตามองเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาบ้านเป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา หากสหรัฐอเมริกามีภาวะเศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้น ก็ย่อมส่งผลกระทบในเชิงบวกแก่ประเทศอื่น เพราะสหรัฐอเมริกา เป็นศูนย์กลางกำลังซื้อสำคัญจากทั่วโลก รวมทั้งสินค้าและบริการจากประเทศไทย
          รายงานสถานการณ์ล่าสุด ณ เดือนสิงหาคมพบว่า ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกากลับตกต่ำลงโดยเฉลี่ยประมาณ 0.3% ซึ่งเป็นสัญญาณในทางลบ ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังไม่ได้อยู่ในช่วงพ้นปากเหวเสียทีเดียว อย่างไรก็ตามการติดลบที่ 0.3% นี้ยังถือว่าน้อยมาก ทำให้ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของสหรัฐอเมริกาอาจไม่สูงจนเกินไปนัก
          อย่างไรก็ตามในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้ คือตลอดเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2552 ปรากฏว่าราคาบ้านในสหรัฐอเมริกา กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่มาตกต่ำอีกครั้งหนึ่งในเดือนสิงหาคม 2552 หากในเดือนกันยายน 2552 มีการปรับตัวในเชิงบวก นักลงทุนจากทั่วโลกคงคลายความกังวลลงไปได้บ้าง แต่หากในเดือนกันยายน 2552 ราคาบ้านยังตกต่ำลงเป็นเดือนที่สองตามเดือนสิงหาคม 2552 ก็อาจทำให้นักลงทุนต่าง ๆ สูญเสียความเชื่อมั่นลงไประดับหนึ่ง และอาจเกิดอาการปริวิตกขึ้นได้
          สำหรับในรายละเอียดของการปรับตัวลงของราคาบ้านในเดือนสิงหาคม 2552 ซึ่งเป็นเดือนที่ล่าสุดของการรายงานของทางราชการสหรัฐอเมริกาพบว่า การที่ราคาบ้านตกต่ำลง 0.3% นี้ ทำให้ ตลอดทั้งปี คิอช่วงเดือนสิงหาคม 2551- สิงหาคม 2552 ราคาบ้านยังคงตกต่ำลง 3.6% ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วถือว่าตกต่ำลงไม่มากนัก อย่างไรก็ตามหากเทียบราคาบ้าน ณ เดือนสิงหาคม 2552 กับช่วงสูงสุดในเดือนเมษายน 2550 นั้น พบว่าราคาทั่วประเทศตกต่ำลงไปประมาณ 10.7% ตัวเลขนี้นับว่ากระเตื้องขึ้นหากเทียบกับบางช่วงที่ตกต่ำลงกว่านี้ เช่น เมื่อเทียบกับช่วงตกต่ำสุดขีด ณ เดือนเมษายน 2552 ซึ่งตกต่ำลงถึงเกือบ 12% เมื่อเทียบกับราคาสูงสุด ณ เดือนเมษายน 2550
          หากเจาะลึกในรายละเอียดจะพบว่า ภูมิภาคที่เคยตกต่ำสุดขีดคือมลรัฐติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหลาย อันมีแคลิฟอร์เนียเป็นตัวนำแล้ว จะพบว่า ภูมิภาคที่นี้กลับไม่พบราคาตกต่ำลง คือราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% เลยทีเดียว และในเดือนสิงหาคมนี้ นับว่าเป็นเดือนที่สี่แล้วที่ภูมิภาคนี้มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่วนที่ราคาเฉลี่ยโดยรวมลดลง 0.3% นั้น ก็เป็นเพราะในภูมิภาคอื่น ๆ ยังมีการปรับตัวลงบ้าง แต่ก็ไม่มากนักเมื่อเทียบกับแต่ก่อน ดังนั้นจึงอาจพอสบายใจขึ้นบ้างที่พื้นที่ที่อันตรายที่สุดคือภูมิภาคแปซิฟิก ราคากับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
          อย่างไรก็ตามพื้นที่ซีกตะวันออกของสหรัฐอเมริกาไล่มาตั้งแต่ภูมิภาคของมลรัฐนิวอิงแลนด์ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือจนถึงภูมิภาคแอตแลนติกตะวันออก และภูมิภาคแอตแลนติกใต้นั้น ราคายังติดลบ โดยสรุปแล้ว ภูมิภาคทั้งหมด 4 ภูมิภาคจาก 9 ภูมิภาคเท่านั้นที่มีราคาบ้านลดลงในช่วงเดือนล่าสุดที่สำรวจ คือเดือนสิงหาคม
          ในการนำเสนอคราวหน้า ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จะได้นำเสนอข้อมูลสรุปราคาบ้านในสหรัฐอเมริกา ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 เพื่อเป็นการชี้ทิศทางการลงทุนของโลกในอนาคต