ปีนี้ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ดำเนินการมาครบรอบ 20 ปี เราจึงเป็นศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แห่งแรก บริการข้อมูลที่เป็นกลางและเชื่อถือได้มากที่สุด ไม่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเอาข้อมูลไปใช้งานก่อน  สร้างประโยชน์ต่อชาติโดยรัฐบาลไม่ต้องเสียเงินนับร้อยล้านต่อปี
          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่า ทางบริษัทเริ่มตั้งเมื่อปี 2534 หรือ 23 ปีก่อน และเริ่มเก็บข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องเป็นรายเดือนและปรับปรุงสถานการณ์ให้ทันสมัยทุกรอบไตรมาสมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 จนบัดนี้ครบรอบ 20 ปีแล้ว เราจึงเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งแรกที่มีข้อมูลที่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดและกว้างขวางที่สุดในประเทศไทย
แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความเป็นกลาง ดร.โสภณ กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลของเราไม่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาเป็นกรรมการศูนย์ มาล่วงรู้ข้อมูลก่อน  มูลค่าและคุณค่าของข้อมูลอยู่ที่การเป็นการได้รับรู้ข้อมูลก่อนในฐานะ First Hand Information เรามุ่งประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่ตระหนักถึงคุณค่าของข้อมูล ภายในทุกวันที่ 8 ของเดือนถัดไป สมาชิกก็จะได้ข้อมูลของเดือนก่อน และภายใน 3 สัปดาห์ของทุกครึ่งปี เราก็ยังสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยราว 1,500 โครงการพร้อมนำเสนอถึงสมาชิก
          การให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียล่วงรู้ข้อมูลก่อน ก็จะเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน การทำศูนย์ข้อมูลอาจมีต้นทุนเกือบ 100 ล้านบาท แต่ถ้ามีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ภาคเอกชล่วงรู้ข้อมูลก่อน คนอื่นก็เสียเปรียบ กลายเป็นว่าศูนย์ข้อมูลจัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์ของคนไม่กี่คน ผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินอีกมากมายทั้งใน กทม. และปริมณฑล และต่างจังหวัด ก็เสียเปรียบ การจะอ้างว่าให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายใหญ่ได้รู้ก่อนเพื่อกลั่นกรองข้อมูลนั้น เท่ากับเป็นการตบหน้านักพัฒนาที่ดินอื่นว่าไม่มีวิจารณญาณที่ดีเพียงพอที่จะวินิจฉัยข้อมูลเอง
          ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ไม่ทำกิจการด้านนายหน้า ไม่พัฒนาที่ดินเอง ไม่ได้อิงประโยชน์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด จึงมีความเป็นกลางโดยเคร่งครัด นอกจากให้ข้อมูลแล้ว ยังเป็นหน่วยวิทยะ Think Tank ที่เตือนภัยทางเศรษฐกิจหรือเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาตลาดอสังหาริมทรัพย์หรือปัญหาเศรษฐกิจของประเทศโดยไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลใด ๆ
          ที่สำคัญทางราชการไม่ต้องเสียเงินนับร้อยล้านมาทำข้อมูล แต่ศูนย์ข้อมูลของเราสามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่เป็นภาระกับทางราชการ ทางราชการสามารถนำเงินไปใช้พัฒนาประเทศในทางอื่น ด้วยข้อมูลที่ทรงคุณค่าที่เป็นที่เชื่อถือในวงอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งกว่านั้นด้วยประสบการณ์ด้านข้อมูลอันอุดม ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จึงได้ออกไปสำรวจข้อมูลและให้บริการแก่นักพัฒนาที่ดิน หน่วยราชการในต่างประเทศ เช่น ณ กรุงกาฐมาณฑุ กรุงจาการ์ตา กรุงพนมเปญ กรุงมะนิลา นครโฮชิมินห์ซิตี้ เป็นต้น โดยบริการข้อมูลที่กว้างขวางและรวดเร็วกว่าศูนย์ข้อมูลในท้องถิ่นเสียอีก
          ยิ่งกว่านั้นศูนย์ข้อมูลของเรายังตั้งโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.trebs.ac.th) เมื่อปี พ.ศ.2544 เพื่อให้บริการการศึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์แก่ทั้งผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศ  โรงเรียนแห่งนี้อยู่ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่าโรงเรียนของเราไม่ได้อาศัยสถานะของสถาบันใด ๆ แต่อาศัยหลักการที่มุ่งให้ความรู้อย่างยิ่งยวดแก่ผู้ศึกษา ถือผู้ศึกษาเป็นศูนย์กลาง เป็นผู้รับบริการที่โรงเรียนจะพยายามให้บริการการศึกษาอย่างดีที่สุด
          ศูนย์ข้อมูลของเรายังได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย เช่น โล่นายกรัฐมนตรี รางวัลจรรยาบรรณดีเด่น หอการค้าไทย พ.ศ.2548  รางวัลเศรษฐกิจพอเพียง พ.ศ.2550 รางวัลบรรษัทภิบาลดีเด่น พ.ศ.2552 รางวัลความโปร่งใส ปปช. พ.ศ.2554 และรางวัลแรงงานสัมพันธ์ดีเด่น พ.ศ.2554-2557 ต่อเนื่องทุกปี นอกจากนั้นยังได้รับมาตรฐาน ISO 9001-2008 โดยได้ตั้งแต่ พ.ศ.2543 และต่อเนื่องมาถึง Version ปัจจุบัน
          การเกิดขึ้นและการดำรงอยู่ของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จึงเป็นสิ่งที่สังคมไทยพึงภูมิใจว่าเราสามารถจัดทำศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่และท้นสมัยที่สุดในอาเซียน โดยมีความเป็นกลางทางวิชาชีพโดยเคร่งครัด โดยไม่แอบอิงประโยชน์จากทางราชการหรือสถาบันใด และราชการก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย