มีคลิปของคุณ CK แนะนำเรื่องการลงทุน ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) มีความเห็นต่าง การที่จะให้คนเอาเงินไปซื้อที่ดินทำที่จอดรถ ผลตอบแทนต่ำเกินไป แถมให้คนไปสร้างโกดังให้เช่า ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ไม่ใช่ใครก็ทำได้ แถมผลตอบแทนไม่ได้สูงเช่นที่เข้าใจ เอาดอกผลไปผ่อนบ้านไม่พอแน่นอน
ดร.โสภณ มีความเห็นดังนี้:
1. คุณ CK มีความพยายามที่ดีในการแนะนำการลงทุน
2. แต่สิ่งที่แนะนำอาจไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
3. ที่บอกว่าซื้อบ้านไม่สร้างเงินสดนั้น คงไม่ใช่เพราะบ้านสามารถปล่อยเช่าได้ ถ้าไม่ได้ปล่อยเช่า แต่ซื้อเป็นบ้านหลังแรก ก็เท่ากับการเช่าตัวเองอยู่ การผ่อนมักถูกกว่าเช่า (ยกเว้นการผ่อนแบบเสี่ยงๆ ที่ไม่มีเงินดาวน์เลย) การซื้อบ้านหลังหนึ่ง ถ้าซื้ออย่างรอบรู้ ก็จะได้มูลค่าเพิ่ม 2 ทางทั้งราคาเพิ่มขึ้นและรายได้จากการให้เช่า
4. ส่วนข้อเสนอว่าให้เอาเงินสดสะสม 2 ล้านไปซื้อที่ดินทำลานจอดรถ เพราะที่ดินทำลานจอดรถได้ก็คงต้องมีราคาตารางวาละ 5 หมื่นบาทเป็นอย่างน้อย ก็คงซื้อได้แค่ 40 ตารางวา ซึ่งน่าจะจอดรถได้แค่ 8 คัน ได้เงินคันละ 2,000 บาท สมมติเป็นกำไรสุทธิที่ 1,500 บาทต่อเดือน หรือเดือนละเพียง 12,000 บาทซึ่งต่ำมาก ถ้ามีอัตราการใช้ 80% ก็เหลือเพียง 9,600 บาท หรือปีละ 115,200 บาท ซึ่งเท่ากับอัตราผลตอบแทน 5.7%
5. การเอาเงิน 2 ล้านไปเช่าที่สร้างสร้างโกดังก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเงิน 2 ล้านนี้น้อยเกินกว่าจะใช้ลงทุนสร้างโกดังได้ และก็เป็นธุรกิจที่เราต้องมีความเชี่ยวชาญด้วย ต้องทำ Feasibility Study ให้ดี ขืนไปลงทุนส่งเดช คงเจ๊งแน่นอน
6. คุณ CK บอกว่าถ้าลงทุนตามข้างต้นจะได้กำไรเดือนละ 100,000 บาท แล้วหักเอาเงิน 50,000 ไปผ่อนบ้าน ข้อนี้ไม่เป็นความจริง เพราะไม่ได้ผลตอบแทนสูงเท่านี้ ผลตอบแทนจากการเช่าโกดังก็เพียง 6-7% ต่อปี ไม่ใช่ 60% ต่อปี (ถ้าสร้างรายได้เดือนละ 100,000 บาทตามที่คุณ CK สมมติ ก็เท่ากับปีละ 1.2 ล้านบาทเมื่อหารด้วยเงินลงทุน 2 ล้านก็เท่ากับกำไรปีละ 60% ซึ่งเป็นไปไม่ได้)
ตัวอย่างที่คุณ CK ยกมาจึงไม่ Make Sense ทำให้ไม่เป็นความจริง
https://www.facebook.com/dr.sopon4/videos/934075728523457/