ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ในฐานะศูนย์ข้อมูลที่มีฐานข้อมูลที่ใหญ่และปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดทุกรอบไตรมาส และเป็นศูนย์ข้อมูลแห่งแรกของประเทศไทย ที่เป็นกลาง ไม่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาเป็นกรรมการ หรือมาล่วงรู้ข้อมูลไปใช้ในเชิงพาณิชย์ก่อน ขอเสนอแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่ปรากฎว่าจำนวนหน่วยเปิดขายกลับลดลง ถึง 26% แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 7% ในรอบ 10 เดือนแรกของปี 2557 พบว่า มีจำนวนหน่วยขายรวม 83,268 หน่วย (ลดลงประมาณ 24%) และมีมูลค่าโครงการ 263,495 ล้านบาท (ลดลงประมาณ 17%)
          ในเดือนตุลาคมภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีการเปิดตัวใหม่ลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในเดือนนี้มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 25 โครงการ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 12 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายลดลง -26% แต่มูลค่าโครงการกลับเพิ่มขึ้น 7% เนื่องจากมีสินค้าประเภทอาคารชุดและบ้านเดี่ยวราคาแพง เข้าสู่ตลาดหลายโครงการ ลักษณะการพัฒนาเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้ง 25 โครงการ ในเดือนนี้มีจำนวนหน่วยที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด 7,903 หน่วย มีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 34,880 ล้านบาท
          ประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ ยังคงเป็นอาคารชุดอีกเช่นเดิม โดยมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 5,992 หน่วย (75.8%) รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 720 หน่วย (9.1%) ส่วนอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 541 หน่วย (6.8%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบจำนวนหน่วยขายกับเดือนที่ผ่านมา จะพบว่าจำนวนหน่วยขายของที่อยู่อาศัยหลัก ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารชุด ต่างก็มีหน่วยขายลดลง โดยอาคารชุดซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของตลาดมีหน่วยขายลดลง 911 หน่วย (ลดลง -13%) ในเดือนนี้บ้านเดี่ยวเปิดขายเป็นกลุ่มรองของตลาด แต่มีจำนวนหน่วยขายลดลง 821 หน่วย (ลดลง -53%)
          เมื่อพิจารณามูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนตุลาคม 2557 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 34,880 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 2,180 ล้านบาท (เดือนกันยายน 2557 มีมูลค่า 32,700 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 7% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะแตกต่างจากเดือนที่ผ่านมา โดยจะพบว่าสินค้าที่เข้าสู่ตลาดส่วนใหญ่จะมีราคาปานกลางถึงค่อนข้างสูงเป็นสำคัญ โดยมีระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีสัดส่วน 35% ระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีสัดส่วน 24%
          หากพิจารณาระดับราคาขายจะพบว่าไม่มีการเปิดขายที่ระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทเลย ที่ระดับราคา 1-2 ล้านบาท มีจำนวน 638 หน่วย (8%) มีมูลค่าโครงการ 1,075 ล้านบาท (3%) ระดับราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวน 2,747 หน่วย (35%) มีมูลค่าโครงการ 6,621 ล้านบาท (19%) ที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 1,890 หน่วย (24%) มีมูลค่าโครงการ 7,181 ล้านบาท (21%) ที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท มีจำนวน 2,379 หน่วย (30%) มีมูลค่าโครงการ 15,603 ล้านบาท (45%) ส่วนที่มีระดับราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไปจำนวน 249 หน่วย (3%) และมีมูลค่าโครงการ 4,399 ล้านบาท (13%) ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้
          ในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ย 37% ต่อเดือน ซึ่งเท่ากับเดือนที่ผ่านมา โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้มากสุดอันดับ 1 คืออาคารชุดระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาท จำนวน 1,923 หน่วย ขายได้แล้ว 1,492 หน่วย (74%) รองลงคือ อาคารชุดระดับราคา 10.001-20.000 ล้านบาท จำนวน 174 หน่วย ขายได้แล้ว 106 หน่วย (72%) และอันดับ 3 คือ อาคารชุดระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท จำนวน 554 หน่วย ขายได้แล้ว 212 หน่วย (38%)
          ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 9 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิลพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท อารียาพรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และมีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 2 บริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีก 10 บริษัท
          ในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯชั้นในจำนวน 8 โครงการ และตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลาง รวมถึงส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) จำนวน 15 โครงการ เช่น ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวิภาวดี-รังสิต ถนนรามอินทรา ถนนบางนา-ตราด ถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก 2 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งใกล้แหล่งงาน แหล่งชุมชนที่อยู่อาศัย เช่น ย่านนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ย่านบางกรวย-ไทรน้อย เป็นต้น
          หากพิจารณาภาพรวมใน 10 เดือนแรกของปี 2557 (มกราคม-ตุลาคม 2557) เปรียบเทียบกับ 10 เดือนแรกปี 2556) มีจำนวนโครงการที่เปิดใหม่รวม 334 โครงการ (ลดลงประมาณ -16%) มีจำนวนหน่วยขายรวม 83,268 หน่วย (ลดลงประมาณ -24%) และมีมูลค่าโครงการ 263,495 ล้านบาท (ลดลงประมาณ 17%) แต่มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก 2.904 ล้านบาท เป็น 3.164 ล้านบาท (เพิ่มประมาณ 9%) โดยกลุ่มที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมากสุด คืออาคารชุดจำนวน 45,357 หน่วย (54%) รองลงมา คือทาวน์เฮ้าส์ 20,883 หน่วย (25%) และอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 11,458 หน่วย (14%)

แผนที่แสดงที่ตั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดตัวใหม่เดือนตุลาคม 2557