ผมเขียน post สาธารณะเผื่อท่าน ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้อ่าน เผื่อท่านจะจ้างผมไปเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์กับคนต่างชาติ ลองอ่านดูที่ผมเสนอนะครับ
ท่านทักษิณ จ้างผมเป็นที่ปรึกษาเรื่องอสังหาฯ กับคนต่างชาติเถอะ ขอเดือนละ 2 ล้าน รับประกันคืนเงิน (รายได้นำไปบริจาคเพื่อคนเร่ร่อน) ผมเสนอตัวให้ ดร.ทักษิณ จ้างผมเป็นที่ปรึกษาเรื่องอสังหาริมทรัพย์กับคนต่างชาติ ขอเงินเดือนๆ ละ 2 ล้านบาทก็พอ รับรองว่าให้แนวทางนโยบายที่เป็นคุณต่อชาติและต่อท่านเองดีกว่าพวกปลัดขิก อธิบโด ผ.อ. (ผัวอ้อย) หรือบรรดาพนักงานเทกระโถนที่ “กร่างและกลวง” แน่นอน ถ้าใช้ไม่ได้ผลจริง ยินดีคืนเงิน |
ผมพูดด้วยความสัตย์จริงว่า ผมไม่ได้หวังจะได้ตำแหน่ง ลาภยศอะไรเลย ทุกวันนี้ก็อยู่อย่าง “พอเพียง” อยู่แล้ว แต่ผมมั่นใจในประสบการณ์ว่าจะช่วยท่านทักษิณได้ดีกว่าคนอื่นๆ แน่นอน และทำให้ท่านได้ทำงานให้ประสบความสำเร็จ เป็นเครดิตของท่านเอง และเป็นผลดีต่อประเทศชาติโดยตรง
แต่ในใจของผมก็เชื่อว่าท่านคงไม่จ้างผมหรอก เพราะรอบข้างก็มีผู้รู้มากมาย แต่ผมก็มั่นใจว่าคนเหล่านั้นจะนำพาท่านคิดนโยบายและแผนที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงแน่นอน ผมจึงการันตีว่า ถ้าสิ่งที่ผมแนะนำ ไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง ผมยินดีรับประกันคืนเงินเดือนให้เลย
ผมอยากให้ท่านตระหนักว่า
1. ถ้าท่านใช้ข้าราชการประจำ บางท่านก็อาจมาทำตามหน้าที่ บางท่านก็มาทำเพื่อแสวงหาโอกาสและผลประโยชน์ ที่คิดจะไปศึกษาจริงจังเพื่อมานำเสนอข้อมูลของท่านอาจมีน้อยนิด
2. ถ้าท่านฟังที่ปรึกษาภาคเอกชน หรืออาจมอาจารย์ บางท่านก็อาจคล้ายพวกแรก และบางคนก็เป็นพวก “กร่างแต่กลวง” เอาเข้าจริงๆ ไม่รู้อะไรเลยก็มีให้ท่านเองเห็นมามากแล้ว
3. ถ้าท่านฟังพวกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก็คือนักพัฒนาที่ดิน พวกนี้บางคนก็เอาแต่ประโยชน์ตนเองเป็นที่ตั้ง หวังจะขายที่ ขายชาติ โดยที่ไม่ได้คิดถึงประโยชน์ของชาติ บางท่านจึงมองไกลแค่ปลายจมูก
ผมจึงมั่นใจว่าผมจะช่วยท่านได้มากกว่ากลุ่มคนข้างต้น เพราะมีประสบการณ์มากพอ และมากกว่าพวกข้างต้นอย่างแน่นอน ดร.ทักษิณ มั่นใจได้
ยิ่งกว่านั้น ก็ยังมีนักข่าวถามผมว่าทำไมเรียกเงินเดือนแค่ 2 ล้านบาท ผมก็ “พอเพียง” ลำพังเดือนหนึ่งๆ บริษัทของผมก็ทำเงินมากกว่านี้นัก แต่ผมก็ต้องการเพียงแค่นี้ เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือมูลนิธิอิสรชนที่ช่วยเหลือคนเร่ร่อน ผมเองก็เป็นประธานมูลนิธิมาตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2554 แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ผมก็ขอลาออกจากการเป็นประธาน เพื่อให้ท่านอื่นได้บริหารบ้าง ไม่ได้คิดผูกขาด องค์กรใดที่มีการผูกขาด ก็แสดงว่ามีผลประโยชน์นั่นเอง
ยังไงท่าน ดร.ทักษิณ ชินวัตร “นายกรัฐมนโท” ลองให้ผมได้มีโอกาสช่วยท่านในฐานะที่ท่านเป็นบิดาของ “นายกรัฐมนตรี” นะครับ