อ่าน 5,168 คน
AREA แถลง ฉบับที่ 196/2557: 8 ธันวาคม 2557
           ประเทศไทยกำลังทรุดหนัก ไม่ได้ทะยานเช่นที่ท่านนายกฯ เข้าใจ

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
sopon@area.co.th

          ตามที่ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าใจว่าชาติอื่นถดถอย เปรียบไทยเสือรอทะยานสู่อนาคตนั้น อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน แต่ไทยควรปราบการทุจริตดังที่ท่านนายกฯ แนะนำ รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศแทนนโยบาย "อัฐยายซื้อขนมยาย"
          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้ติดตามข่าวที่ท่านนายกรัฐมนตรีกล่าวข้างต้น ซึ่งคงเป็นความเข้าใจผิด จึงขออนุญาตเสนอข้อมูลที่แท้จริงจากเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติดังนี้:
          ตามการคาดการณ์ของธนาคารโลก (http://data.worldbank.org/country) คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2557 จะเติบโตประมาณ 2.5% และคาดว่าจะเติบโตเป็น 4.5% ในปี 2558 และ 2559  อย่างไรก็ตามโดยที่คาดว่าเศรษฐกิจของไทยจะเติบโตต่ำกว่า 2.5% ตามที่ธนาคารโลกคาดการณ์ คือเหลือเพียง 1-1.5% จึงอาจทำให้การคาดการณ์ในปี 2558 และ 2559 อาจจะต่ำกว่า 4.5% ตามการคาดการณ์ของธนาคารโลกลงไปอีก

          ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ปรากฏว่าทุกประเทศเติบโตมากกว่าประเทศไทยทั้งสิ้น ยกเว้นสิงคโปร์และบรูไนที่เจริญกว่าไทย 6 เท่าและธนาคารโลกไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบให้ อย่างประเทศที่เติบโตช้าที่สุดคือมาเลเซีย ก็เติบโตสูงถึง 4.9% และ 5% ในช่วงปี 2557-2559 นอกนั้นล้วนเติบโตในอัตราที่สูงกว่าไทยอย่างชัดเจนทั้งสิ้น ผลของความไม่ปกติทางการเมืองในประเทศไทยปัจจุบัน คงส่งผลให้เศรษฐกิจชะงักงันไป ดังนั้นความจริงจึงกลายเป็นว่าประเทศเพื่อนบ้านต่างทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ยังไม่แซงไทยเท่านั้น ยกเว้น สิงคโปร์ บรูไน และมาเลเซีย
          ข้อคิดสำคัญประการหนึ่งก็คือ การที่ท่านนายกรัฐมนตรีมีข้อมูลคลาดเคลื่อน อาจจำเป็นต้องทบทวนทีมเศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สอดคล้องกับความเป็นจริงกว่านี้ และอีกประการหนึ่ง นโยบายของท่านนายกรัฐมนตรีที่ต้องการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ประเทศอินโดนีเซียที่เคยล้าหลังกว่าไทย ก็มีคะแนนองค์กรปราบปรามการทุจริตสูงสุด และปราบปรามการทุจริตอย่างได้ผล โดยไม่มีการที่ข้าราชการการเมืองในรัฐบาลไปร่วมประมูลงาน ไม่มีข้อครหาการจัดซื้อแพง หรือการทุจริตอื่นซึ่งแม้ขณะนี้ไม่มีนักการเมืองตามระบอบพรรคการเมืองแล้ว แต่ก็ยังมีการทุจริตเป็นอย่างมาก หากยังมีปรากฏการณ์ตบเท้าอวยพร รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ในวงราชการโอกาสต่าง ๆ ในระดับต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง การทุจริตย่อมไม่อาจแก้ไขได้
          ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่รัฐบาลควรพิจารณาก็คือการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ มากกว่าการมุ่งเน้นการบริโภคภายในประเทศในทำนอง "อัฐยาย ซื้อขนมยาย" ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการผลิตและการพัฒนาประเทศโดยรวม หากมีการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในด้านต่าง ๆ มากขึ้น ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับการอัดฉีดและเติบโตมากขึ้น โดยโครงการที่พึงพิจารณาก็คือการพัฒนาสาธารณูปโภคและโครสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนสัมปทาน รถไฟฟ้าสัมปทาน นิคมอุตสาหกรรมนานาชาติ เป็นต้น


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved