ในเดือนสิงหาคมภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเปิดตัวจำนวนโครงการเพิ่มขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า โดยมีโครงการเปิดขายใหม่รวม 27 โครงการ (เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีโครงการเปิดขายใหม่ 23 โครงการ) โดยลักษณะการพัฒนาเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัย 26 โครงการ และมีอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ อีก 1 โครงการ ในจำนวนที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด มีจำนวนหน่วยขายรวม 3,926 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 36,535 ล้านบาท ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้ทำสรุปไว้
จำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 3,928 หน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 1,716 หน่วย (เดือนกรกฎาคม 2567 มีจำนวน 2,210 หน่วย) หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 78% เนื่องจากมีการเปิดตัวของผู้ประกอบการรายใหญ่เพิ่มขึ้น พิจารณาประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้คือ ทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่รวม 1,746 หน่วย (44.52%) รองลงมาคือ บ้านแฝด 869 หน่วย (22.1%) ส่วนอันดับ 3 คือ อาคารชุด 649 หน่วย (16.5%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจำนวนหน่วยขายของที่อยู่อาศัยหลัก ซึ่งได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารชุด กับเดือนที่ผ่านมา จะพบว่า จำนวนหน่วยขายเปิดใหม่ของทาวน์เฮ้าส์และอาคารชุดเพิ่มขึ้น ยกเว้นบ้านเดี่ยวที่มีหน่วยขายลดลง โดยทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนหน่วยขายเพิ่มขึ้น 1,032 หน่วย (144.5%) อาคารชุดเพิ่มขึ้น 158 หน่วย (32.2%) ส่วนบ้านเดี่ยวลดลง 141 หน่วย (-18.1%) ซึ่งทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ สำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นกลาง และพื้นที่รอบนอกเป็นสำคัญ ส่วนอาคารชุดจะตั้งอยู่ในย่าน CBD และตามแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมถึงบริเวณแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยย่านรังสิต เป็นต้น
ในด้านอัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 9.8% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 8.2% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุด คือ อาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 354 หน่วย ขายได้แล้ว 111 หน่วย (31%) รองลงมาคือบ้านแฝดระดับราคา 20 ล้านบาทขขึ้นไป จำนวน 38 หน่วย ขายได้แล้ว 7 หน่วย (18%) และอันดับ 3 คือ อาคารชุดระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 238 หน่วย ขายได้แล้ว 35 หน่วย (15%)
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวนถึง 9 บริษัท คือ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ
ในด้านทำเลที่ตั้ง (โปรดดูแผนที่ 1) จะพบว่าในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นใน จำนวน 2 โครงการ ในย่านถนนสุขุมวิทและเจริญราษฎร์ ส่วนโครงการที่ตั้งอยู่ในเขตชั้นกลาง และส่วนต่อขยายของเมือง (Intermediate area) มีจำนวน 16 โครงการ เช่น ย่านลาดพร้าว รามคำแหง บางนา อ่อนนุช อุดมสุข กัลปพฤกษ์ ปิ่นเกล้า นครอินทร์ เป็นต้น นอกจากนี้ส่วนที่เหลือจำนวน 9 โครงการ ตั้งอยู่ในพื้นที่รอบนอก ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยในย่านแหล่งงาน เช่น คลองหลวง รังสิต-นครนายก สมุทรสาคร และราชพฤกษ์ตัดใหม่-ปทุมธานี เป็นต้น
เมื่อพิจารณาจำนวนอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมของปีนี้เปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา จะพบว่าในปีนี้มีจำนวนโครงการเปิดใหม่ลดลงจากปีที่ผ่านมา 12 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายลดลง 2,843 หน่วย หรือ -42.0% (ปีที่ผ่านมามีจำนวน 6,769 หน่วย) และมีมูลค่าลดลง 2,794 ล้านบาท หรือลดลง -7.1% (ปีที่ผ่านมามีมูลค่า 39,329 ล้านบาท)
เมื่อเปรียบเทียบจำนวนโครงการที่เปิดใหม่ 8 เดือนแรกปี 2567 มีจำนวนโครงการเปิดใหม่รวม 241 โครงการ น้อยกว่า 8 เดือนแรกของปี 2566 จำนวน 47 โครงการ หรือลดลง -16.3% (8 เดือนแรกของปี 2566 มีจำนวนรวม 288 โครงการ) มูลค่าโครงการ 8 เดือนแรกของปี 2567 มีมูลค่าการโครงการรวม 267,406 ล้านบาท ลดลง 38,192 ล้านบาท หรือ -12.5% (8 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่ารวม 305,599 ล้านบาท) และจำนวนหน่วยขายรวมของ 8 เดือนแรกปี 2567 มีจำนวน 39,597 หน่วย ลดลง 24,216 หน่วย หรือลดลง -37.9% (8 เดือนแรกของปี 66 มีจำนวนรวม 63,723 หน่วย) ตามลำดับ
คาดว่าในปี 2567 โดยรวม จะมีโครงการเปิดใหม่ 400,000 ล้านบาท 70,000 หน่วย ลดลงกว่าปี 2566 ถึงราว 30% ในแง่จำนวนหน่วยลดลง ส่วนในแง่มูลค่าลดลงประมาณ 10%