ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่เดือนตุลาคม 2567 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีจำนวน 34 โครงการเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนที่ผ่านมา 7 โครงการ เป็นการพัฒนาประเภทที่อยู่อาศัยทั้ง 34 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 5,641 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 38,300 ล้านบาท

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) สรุปตลาดที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 5,641 หน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาประมาณ 134.3% เนื่องจากเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ของปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการจะพยายามเร่งเปิดการขายก่อนสิ้นปีอีกช่วงหนึ่ง ประเภทที่อยู่อาศัยที่มีจำนวนหน่วยมากที่สุดในเดือนนี้ คือ อาคารชุดจำนวน 2,669 หน่วย  รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 1,783 หน่วย อันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 822 หน่วย  ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาจะพบว่า บ้านเดี่ยวมีจำนวนหน่วยขายเพิ่มขึ้น 1,078 หน่วย (152.9%) ทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้น 143 หน่วย (21.1%) ส่วนอาคารชุดเพิ่มขึ้น 2,063 หน่วย (340.4%)

            หากพิจารณาในด้านมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใหม่ในเดือนตุลาคม 2567 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 38,300 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาประมาณ 125.1% ซึ่งในเดือนนี้ บ้านเดี่ยวที่เข้าสู่ตลาดส่วนใหญ่จะเป็นระดับราคาค่อนข้างสูง ทาวน์เฮ้าส์มีระดับราคาปานกลางค่อนข้างถูก ส่วนอาคารชุดจะมีระดับราคาค่อนข้างถูกเป็นสำคัญ

            ประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือ บ้านเดี่ยวมีมูลค่า 24,548 ล้านบาท (64.1%) รองลงมา คือ อาคารชุดมีมูลค่า 7,963 ล้านบาท (20.8%) ส่วนอันดับ 3 คือ ทาวน์เฮ้าส์ 3,066 ล้านบาท (8.0%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ดังนั้นภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ส่วนใหญ่ หากเป็นบ้านเดี่ยวจะเน้นพัฒนาที่ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป บ้านแฝดที่ระดับราคา 4-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ราคา 2-3 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดจะเน้นพัฒนาที่ราคา 1-2 ล้านบาท เป็นสำคัญ

            สำหรับราคาเฉลี่ยต่อหน่วยในเดือนนี้กลับลดลง เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่พัฒนาอยู่ในพื้นที่ส่วนต่อขยายเมืองและพื้นที่รอบนอกเป็นสำคัญ หากเป็นบ้านเดี่ยวยังคงเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังจ่ายระดับค่อนข้างสูงขึ้นไป ส่วนทาวน์เฮ้าส์และอาคารชุดในเดือนนี้สินค้าใหม่ที่ออกสู่ตลาดจะเน้นพัฒนาระดับราคาปานกลางค่อนข้างถูก ทำให้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยปรับลดลงประมาณ 3.9% โดยราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยที่ประมาณ 6.790 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 7.067 ล้านบาท

            เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 5 บริษัท คือ บริษัท ปรีชา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง

            ทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ สำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในส่วนต่อขยายเมือง และพื้นที่รอบนอกเป็นสำคัญ อาคารชุดจะตั้งอยู่ในย่าน CBD และส่วนต่อขยายเมือง โดยเฉพาะย่านสถานศึกษาและทำเลตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เป็นต้น