การเปลี่ยนแปลงราคาที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นเครื่องชี้ภาวะสำคัญประการหนึ่งของตลาดที่อยู่อาศัย ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จึงขอสรุปสาระสำคัญดังนี้:
          ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา ธันวาคม 2557 - ธันวาคม 2557 ปรากฏว่าราคาที่อยู่อาศัยในโครงการที่ขายอยู่ในท้องตลาด รวมบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ อาคารชุดและอื่น ๆ มีราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 0.68% ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นน้อยมาก แต่การเพิ่มขึ้นนี้คงไม่สะท้อนภาวะที่ชัดเจนนัก เพราะสินค้าที่ไม่ค่อยขึ้นราคาก็คือสินค้าที่ขายไม่ค่อยดี ส่วนสินค้าที่ขายดีมักจะหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็อาจชี้ภาวะได้เพียงในระดับหนึ่ง
          สินค้าที่เพิ่มราคามากที่สุดก็คือสินค้ามีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 0.91% ส่วนที่ราคาลด ได้แก่สินค้าที่มีราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยลดลงประมาณ 0.38% สินค้าที่มีราคาสูง จะมีผู้ซื้อจำนวนจำกัด และมีโอกาสน้อยในการเก็งกำไร (ระยะสั้น)
          อย่างไรก็ตามถ้าเป็นบ้านเดี่ยว ระดับราคาที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นสูงสุดก็คือ บ้านเดี่ยวราคา 10 ล้านขึ้นไป โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 1.78% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ทาวน์เฮาส์ราคา 3-5 ล้านบาท มีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสูงสุดกว่ากลุ่มอื่น โดยเพิ่มขึ้น 1.59% ส่วนห้องชุดที่ขายที่มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดคือห้องชุดราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 1.26%
          ทำเลที่น่าสนใจ เช่น
          ตึกแถวย่านนวมินทร์ (ทำเล D6) ที่มีราคา 3-5 ล้านบาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้น 12.9% จากเฉลี่ย 3.89 - 4.39 ล้านบาท
          ห้องชุดย่านรัชโยธิน (มำเล F2) ราคา 1-2 ล้านบาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้น 11.9% จากเฉลี่ย 1.35 - 1.51 ล้านบาท
          ตึกแถวชุดย่านลำลูกกา (ทำเล A6) ราคา 3-5 ล้านบาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้น 11.7% จากเฉลี่ย 2.999 - 3.349 ล้านบาท
          ห้องชุดย่านเดอะมอลล์งามวงศ์วาน (ทำเล B5) ราคา 1-2 ล้านบาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้น 11.7% จากเฉลี่ย 1.459 - 1.630 ล้านบาท
          ทาวน์เฮาสน์ย่านสะพานใหม่ (ทำเล D2) ราคา 1-2 ล้านบาท ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้น 10.7% จากเฉลี่ย 1.485 - 1.643 ล้านบาท เป็นต้น
          โดยรวมแล้วจะพบว่าราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นมี 25% ที่ลดลงมี 12% และที่ยังคงนำเสนอขายในราคาเดิมมี 63% ภาวะในขณะนี้ยังไม่เกิดการล้นตลาดหรือยังไม่มีสัญญาณวิกฤติ ยกเว้นหากมีผลกระทบจากการเมือง เป็นต้น
          สำหรับอาคารหลังเดิมที่เป็นมือสอง มีการเปลี่ยนแปลงราคาที่แตกต่างกันบ้าง เช่น ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา มีราคาเปลี่ยนแปลงดังนี้
          บ้านเดี่ยวราคาสูง (5 ล้านบาทขึ้นไป) ราคาเพิ่มขึ้น 1%
          บ้านเดี่ยวราคาปานกลาง (ไม่เกิน 3 ล้าน) ราคาเพิ่มขึ้น 3%
          ทาวน์เฮาส์ราคาถูก (ไม่เกิน 1 ล้านบาท) ราคาเพิ่มขึ้น 1%
          ทาวน์เฮาส์ราคาปานกลาง (ไม่เกิน 2 ล้านบาท) ราคาเพิ่มขึ้น 1%
          ห้องชุดราคาสูง (5 ล้านบาทขึ้นไป) ราคาเพิ่มขึ้น 1%
          ห้องชุดราคาปานกลาง (ไม่เกิน 3 ล้าน) ราคาเพิ่มขึ้น 3%
          ห้องชุดราคาถูก (ไม่เกิน 1 ล้าน) ราคาเพิ่มขึ้น 1%
          โดยเฉลี่ยแล้วบ้านมือสองราคาเพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 1% เท่านั้น ทั้งนี้ยกเว้นในพื้นที่ที่มีความคึกคักจากผลพวงของรถไฟฟ้าหรือโครงการสาธารณูปโภคอื่นเป็นสำคัญ
          อาจกล่าวได้ว่า ราคาบ้านในขณะนี้ไม่ได้ทรุดต่ำลง หรือเกิดภาวะชะงักงัน แต่การปรับเพิ่มค่อนข้างช้า ทั้งนี้เพราะภาวะเศรษฐกิจของไทยอาจไม่ได้คึกคักมากเป็นพิเศษ และยังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่นั่นเอง