เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเปิดงานสัมมนาพิเศษ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ: ข้อคิดสำหรับประเทศไทย ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ โดยมีรายละเอียดตามนี้:

 

คำกล่าวเปิดงาน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล

รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ในงานสัมมนาพิเศษ

การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ: ข้อคิดสำหรับประเทศไทย

วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ

 

เรียน     ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล FIABCI-Thai

            ดร.โสภณ พรโชคชัย นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล FIABCI-Thai

            และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน

 

            ผมรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานการสัมมนาและกล่าวเปิดการสัมมนาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ: ข้อคิดสำหรับประเทศไทยในวันนี้

            ทุกวันนี้มีนักลงทุนต่างชาติจากทั่วโลกมาลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเป็นอันมาก ส่วนราชการ ภาคเอกชนและประชาชนเจ้าของประเทศจึงพึงเรียนรู้แบบอย่างและบทเรียนในการนี้จากประเทศต่างๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับในกรณีประเทศไทยของเรา เพื่อไทยเราจะได้รับมือกับการไหล่บ่าของการลงทุนข้ามชาตินี้

            ผมดีใจที่สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล ได้จัดการสัมมนาพิเศษนี้ขึ้น และได้ทราบว่าสมาคมได้เชิญผู้รู้จากหลายประเทศมาแลกเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ของประเทศไทยของเรา ได้แก่ ประเทศเกาหลี จีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย

ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และฮ่องกง

            รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ก็หวังจะได้เรียนรู้จากงานสัมมนานี้ที่จะอภิปรายกันในเรื่อง

            1. เรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับการถือครองอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ เช่น ภาษีซื้ออสังหาริมทรัพย์ ภาษีขายต่อ ราคาขั้นต่ำที่ต่างชาติจะซื้อได้ ระยะเวลาการพักอาศัยในประเทศก่อนวันซื้อ ภาษีมรดก และอื่นๆ

            2. ระบบการออกใบอนุญาตเป็นนักพัฒนาที่ดิน นายหน้า ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน

เพื่อความมั่นใจของลูกค้าชาวต่างประเทศ ประเทศไทยควรยกระดับวิชาชีพด้วยการออกใบอนุญาตสำหรับผู้เกี่ยวข้องในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างไรบ้าง

            ยิ่งกว่านั้นในวันพรุ่งนี้สมาคมยังจะจัดพานักลงทุนชาวต่างประเทศไปเยี่ยมชมโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยทั้งในกรุงเทพมหานครและพัทยา เพื่อให้นักลงทุนพิจารณาลงทุนในประเทศไทย อันเป็นการสนับสนุนวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศของเราอีกด้วย

            ผมจึงขอชื่นชมสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากลที่จัดงานที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในครั้งนี้ และขออวยพรให้งานสัมมนานี้ประสบความสำเร็จในที่สุด