AREA แถลง ฉบับที่ 33/2558: วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558
ระเบิด: สัญญาณย้ายค่ายทหารจากใจกลางเมือง
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
เหตุการณ์ระเบิดในค่ายทหารที่เกียกกาย นับเป็นสัญญาณเตือนให้มีการย้ายค่ายทหารออกนอกเมือง เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย
ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดในค่ายทหารจากวัตถุระเบิดร้ายแรงหลายครั้งที่ผ่านมา ทั้งในเขตใจกลางกรุงเทพมหานคร และในเมืองอื่น ๆ ในภูมิภาค การระเบิดเหล่านี้ สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของทหาร ทางราชการและแม้แต่ลูกหลานของทหารหาญ ตลอดจนชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงเช่นกัน เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเป็นละลอก ๆ ทั้งที่เกิดจากความร้อนของอากาศ ไฟฟ้าลัดวงจร หรือสาเหตุอื่นใดก็ตาม
อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ที่ตั้งของค่ายทหารต่าง ๆ ในเขตดุสิต พญาไท และเขตชั้นในอื่น ๆ ของกรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ชั้นในที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่น และการที่ค่ายทหารตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้การเคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ไม่สะดวก เป็นข้อจำกัดของทางราชการ ดังนั้น จึงควรพิจารณาที่จะย้ายค่ายทหารหรือสถานที่เก็บอาวุธหรือวัตถุระเบิดต่าง ๆ ออกไปนอกเมืองในพื้นที่ ๆ ห่างไกลจากชุมชนเมือง
ยิ่งกว่านั้นหากสามารถที่จะนำพื้นที่ค่ายทหารใจกลางเมือง มาก่อสร้างเป็นศูนย์ธุรกิจใจกลางเมือง ศูนย์ประชุม ศูนย์การขนส่งคมนาคม ศูนย์ซ่อมรถไฟฟ้า ฯลฯ ก็จะก่อประโยชน์ต่อการพัฒนาเมืองอย่างมหาศาล รวมทั้งยังสามารถมาจัดทำเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เช่น สมมติว่ามีที่ดินค่ายทหารต่าง ๆ ในกรุงทพมหานคร 10,000 ไร่ หากนำมาพัฒนาได้สุทธิ 6,000 ไร่ หรือ 9.6 ล้านตารางเมตร หากสามารถสร้างได้ 10 เท่า ก็จะเป็นพื้นที่ก่อสร้าง 96 ล้านตารางเมตร หากพื้นที่ใช้สอยจริงเป็น 60% ของทั้งหมด ก็จะมีพื้นที่ใช้สอยถึง 57.6 ล้านตารางเมตร หากห้องชุดหนึ่งมีขนาด 50 ตารางเมตร ก้เท่ากับสามารถสร้างห้องชุดถึง 1.152 ล้านหน่วยเลยทีเดียว กลายเป็นเมืองใหม่ในใจกลางเมืองได้อีกมาก
ยิ่งกว่านั้นการย้ายค่ายทหารออกไปนอกเมือง ยังจะสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองได้มากขึ้น เป็นการทำให้สภาพแวดล้อมของกรุงเทพมหานครดูน่าอยู่อาศัยมากขึ้น ส่งผลดีต่อเมืองโดยรวม บางส่วนยังอาจเป็นสวนสาธารณะ หรืออาจเป็นที่ตั้งของส่วนราชการอื่นที่จำเป็นต้องอยู่ในเมืองอีกด้วยก็ได้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พึงคำนึงถึงก็คือการย้ายส่วนราชการทหารออกนอกเมือง อาจทำให้บุตรหลานประสบปัญหาในการเดินทางไปเรียนหนังสือหรือสถานที่ทำงานของบุตรหลานที่อาศ้ยอยู่ในค่ายทหาร ข้อนี้อาจต้องอำนวยความสะดวกอย่างสมเกียรติให้ออกไปก่อสร้างสถานศึกษาในพื้นที่ที่ย้ายออกไปนอกเมือง หรืออาจสร้างที่อยู่อาศัยทดแทนในกรณีที่ครอบครัวกำลังพลไม่ต้องการย้ายไปอยู่ค่ายทหารในพื้นที่ชนบทห่างไกล ซึ่งจะทำให้การย้ายส่วนราชการทหารมีความเป็นได้มากขึ้นนั่นเอง
การวางผังเมืองใหม่ การพัฒนาเมืองใหม่ให้สอดคล้องกับการพัฒนาเมืองในสมัยใหม่จึงสอดรับกับการย้ายส่วนราชการทั้งทหารและพลเรือนอื่น ๆ เฉพาะที่ไม่จำเป็นออกไปตั้งในพื้นที่อื่นต่อไป
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
|