AREA แถลง ฉบับที่ 37/2558: วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558
โครงการที่หยุดขาย ยังมีน้อย ไม่เป็นอันตราย
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
โครงการที่หยุดขาย ยังมีน้อย แม้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มากนัก ยังไม่เป็นอันตราย แต่ต้องระมัดระวังทั้งนี้เป็นผลจากผลการสำรวจศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th)
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่าสาเหตุสำคัญก็คือการที่สถาบันการเงินไม่อำนวยสินเชื่อให้ ซึ่งก็เกี่ยวพันกับการขายไม่ออก ซึ่งอาจเนื่องมาจากทำเลที่ตั้งไม่สะดวกหรืออื่นใด เช่นกัน แต่ประเด็นหนึ่งที่พึงจับตามองก็คือ การที่โครงการไม่ผ่านการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA: Environmental Impact Assessment)ซึ่งทำให้ทั้งเจ้าของโครงการ ผู้ซื้อบ้าน ชุมชนและสังคมโดยรวมได้รับผลกระทบ ถือเป็นปัญหาที่พบมากขึ้น
หากเปรียบเทียบในรายละเอียดเฉพาะปี 2556-2557 จะพบว่าจำนวนโครงการที่ประสบปัญหาเพิ่มขึ้น 21 โครงการจาก 101 เป็น 122 โครงการ จำนวนหน่วยขายที่เจ๊งไปเพิ่มเป็น 34,519 หน่วย ณ สิ้นปี 2557 จาก 24,223 หน่วย ณ สิ้นปี 2556 หรือเพิ่มขึ้น 10,296 หน่วย ส่วนมูลค่าของหน่วยขายที่เจ๊งไปเพิ่มเป็น 81,704 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2557 จาก 55,402 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 หรือเพิ่มขึ้น 23,302 ล้านบาทนั่นเอง
ดร.โสภณ เสนอให้โครงการที่นำออกมาควรได้รับอนุญาตให้ถูกต้องเสียก่อน และควรผ่านการ EIA เสียก่อน ซึ่งอาจทำให้การเริ่มขายช้าลง แต่ทำให้มีหลักประกันทั้งต่อนักพัฒนาที่ดิน สถาบันการเงิน และที่สำคัญคือผลประโยชน์ของผู้ซื้อบ้าน ยิ่งกว่านั้นยังควรที่จะคุ้มครองผู้บริโภคด้วยการให้บริษัทพัฒนาที่ดินทุกแห่งทำสัญญาคุ้มครองเงินดาวน์ของผู้ซื้อบ้าน จะได้มีหลักประกัน ทำให้วงการบ้านมีความมั่นคงและยั่งยืน ประชาชนก็จะซื้อบ้านด้วยความมั่นใจในจำนวนเพิ่มขึ้น เป็นการช่วยเพิ่มยอดขายให้กับผู้ประกอบการอีกด้วย
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
|