มีคนโดนครูสอนอสังหาริมทรัพย์หลอก!!!
  AREA แถลง ฉบับที่ 0310/2568: วันพุธที่ 26 มีนาคม 2568

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

           

            เมื่อเร็วๆ นี้มี “ข่าวนักธุรกิจกว่า 10 คน ร้องทนายดังครูสอนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลอกลงทุนสูญ 10 ล้านบาท” ใน นสพ.ผู้จัดการ ที่เผยแพร่เมื่อ19 มี.ค. 2568 15:58 เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ที่เป็นบทเรียนที่พึงสังวร

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้อำนวยการ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.trebs.ac.th) สรุปถึงกรณีนี้ว่า

            1. มีกลุ่มผู้เสียนับ 10 คน ร้องมูลนิธิดัง ถูกครูสอนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลอกสูญเงินร่วมกันกว่า 10 ล้านบาท โดยนาย เอ นามสมมติ อายุ 58 ปี อ้างตัวเป็นครูสอนวิชาการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ อาทิการซื้อขายคอนโด การแปลงสินทรัพย์เป็นเงิน การลงทุนต่างๆในอสังหาริมทรัพย์ให้ได้กำไรสูงสุด โดยใช้ชื่อว่าสมาพันธ์. . . โดยคิดค่าสอนคอร์สละ 2,500 บาท ตลอดชีพ 30,000 บาท

            2. หลังเข้าเรียนได้ไม่นาน นายเอก็จะเข้ามาตีสนิทอ้างว่าตนทำธุรกิจหลายอย่าง ก่อนชักชวนให้ร่วมลงทุนทั้งซื้อขายที่ดิน การสร้างบ้านพักขายเป็นหลัง การซื้อขายรถหรู การปล่อยกู้ให้กับนักลงทุนโดยให้ดอกเบี้ย 100 ละ 10 เปอร์เซ็นต์ บางครั้งก็อ้างธุรกิจมีปัญหาต้องใช้เงินด่วนขอยืมเงิน แล้วก็จะพูดว่าให้เชื่อใจครู ครูไม่โกงหรอก พวกตนที่เป็นลูกศิษย์ก็ลงเชื่อเพราะเป็นครูที่สอนทำธุรกิจมีความน่าเชื่อถือจึงถูกหลอกสูญเงินร่วมกันกว่า 10 ล้านบาท พอทวงถามเรื่องเงินก็เจอข่มขู่ ว่ามีความรู้ด้านกฎหมายอยากได้ให้ไปฟ้อง แถมพูดให้ช้ำใจเขาไปอีกว่าก็รวยกันอยู่แล้วเงินแค่นี้จะเป็นอะไรไป

            3. ชาวอังกฤษและภริยาคนไทยในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อปี 2565 ได้มีโฆษณาชักชวนของสมาพันธ์ดังกล่าวเขามาที่เฟสบุ๊คของตน ว่าเปิดสอนวิชาสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย จึงได้ติดต่อไปเพราะอยากลงทุนทำธุรกิจกันอยู่แล้วจึงเดินทางไปเข้าเรียนที่สมาพันธ์ดังกล่าวทำให้รู้จักกับนายเอ ที่อ้างตนว่าเป็นครูมีความเชี่ยวชาญในเรื่องอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก พอเรียนไปได้สักพัก นายเอ ก็โทรศัพท์มาหาชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อที่สร้างบ้านเป็นหลังๆขายจะได้กำไรอย่างงาม จึงลงเชื่อลงทุนไปร่วม 3 ล้านบาท ก่อนมารู้ที่หลังว่าถูกหลอกจากเพื่อนที่ไปเรียนด้วยกัน

            4. ผู้เสียหายอีกคนเล่าว่าตนรู้จักสมาพันธ์ดังกล่าวทางเฟสบุ๊ค เหมือนกับผู้เสียหายคนอื่นๆพอหลงเชื่อเข้าไปเรียนเพื่อจะมาต่อยอดธุรกิจของตน จึงได้รู้จักกับนายเอ ที่มาเป็นครูสอนการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังจากนั้นนายเอ ได้โทรศัพท์มาหาตนอ้างว่าธุรกิจของเขามีปัญหาลูกน้องขับรถบรรทุกไปชนคนตาย ต้องใช้เงินไปวิ่งเต้นคดีขอยืมเงินจำนวน 300,000 บาท ตนเห็นว่าเป็นครูที่สอนจึงยอมช่วยเหลือโอนเงินไปให้ หลังจากนั้นไม่นานนายเอ โทรศัพท์กลับมาหาตนอีกครั้งบอกว่าไม่พอให้โอนเงินมาให้อีก โดยจะเอาโฉนดที่ดินมาทำสัญญากู้ยืมจึงยอมโอนเงินไปให้อีกร่วมทั้งหมด 600,000 บาท จนมารู้ว่าถูกหลอก

            5. อีกรายกล่าว่า ตนก็โดนหลอกเหมือนผู้เสียหายคนอื่นๆ แต่ของตนนายเอ มาหลอกว่าให้ร่วมลงทุนปล่อยเงินกู้ระยะสั้นจะได้กำไร 100 ละ 10 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการทำสัญญาเอาไว้แทนที่จะเป็นตนทำสัญญากับคนมาขอกู้ แต่กลายเป็นนายเอเป็นคนมาทำสัญญาแทน โดยบอกกับตนว่าไม่ต้องห่วงให้เชื่อใจครู ครูไม่โกงหรอก ตนจึงหลงเชื่อสูญเงินไป กว่า 300,000 บาท

            กรณีนี้ ดร.โสภณ ให้ความเห็นว่า

            1. ที่ผ่านมาก็มีกรณีที่ครูสอนอสังหาริมทรัพย์ยืมเงินลูกศิษย์ หรือชวนร่วมลงทุนต่างๆ เช่นกัน ดังนั้นผู้ที่เข้าเรียนพึงพิจารณาให้ดี อย่าได้หลงเชื่อ

            2. ถ้ามีกรณีกู้ยืมหรือร่วมลงทุนจริง ต้องมีใบเสร็จหรือสัญญาที่ชัดเจน จะเชื่อถือตามความเป็น “ครู” ไม่ได้

            3. การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและล่อลวงด้วยผลตอบแทนสูง (ยิ่งในกรณีคริปโต) ยิ่งล่อด้วยผลตอบแทนสูงๆ เป็นสิ่งที่นักลงทุนพึงระวัง ไม่ควรลงทุนโดยเด็ดขาด

            4. กรณีที่ไม่แน่ใจใด พึงปรึกษาผู้รู้ เช่น ทนายความก่อนที่จะทำนิติกรรมใดๆ กับคนเหล่านี้

            การลงทุนพึงใช้วิจารณญาณ และอย่าให้ใครใช้ความเป็นครูในการหลอกลวง

 

อ่าน 364 คน
2025 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved