อ่าน 1,756 คน
AREA แถลง ฉบับที่ 48/2558: วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558
   อย่าอ้างประชาชนเพื่อลดภาษีทรัพย์สินสำหรับคนรวย

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
sopon@area.co.th

          รัฐบาลไม่ควรลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะการลดคือวาระซ่อนเร้นของการช่วยกลุ่มคนรวยสุด ๆ โดยการหลอกให้คนชั้นกลาง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ หลงเชื่อว่าการลดอัตราภาษีนี้จะลดผลกระทบต่อพวกเขา ทั้งที่ภาระภาษีนี้ต่ำมาก และเป็นคุณต่อประชาชนทุกกลุ่ม
          ล่าสุดนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า "ที่ดินการเกษตรจากเดิมมีเพดานจัดเก็บ 0.5% ลดลงเหลือ 0.25% ที่อยู่อาศัยเพดานจัดเก็บเดิม 1% เหลือ 0.5% ที่ดินพาณิชยกรรมและรกร้างว่างเปล่า เดิมมีเพดานจัดเก็บ 4% ลดลงเหลือ 2% โดยในส่วนที่ดินรกร้างว่างเปล่าจะกำหนดอัตราจัดเก็บในขั้นแรกคือ 0.5% หลังจากนั้นจะเพิ่มอีก 1 เท่าทุก 3 ปี แต่สูงสุดไม่เกิน 2% โดยการจัดเก็บในช่วงแรกจะมีการออกกฎหมายลูกประกาศอัตราการจัดเก็บทุกประเภทใหม่" (http://bit.ly/1vEqzh7)
          ตามข่าวเดียวกัน ยังมีความว่า "ร่างกฎหมายยังกำหนดลดหย่อนสำหรับบ้านที่อยู่อาศัยมูลค่าสุทธิไม่เกิน 1 ล้านบาทไม่ต้องเสียภาษี บ้านราคา 1-3 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 50% ของภาษีที่ประเมิน หากเป็นบ้านที่มีราคาเกินกว่า 3 ล้านบาทเสียในอัตราเต็ม ทั้งนี้ในร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีการกำหนดค่าเสื่อมสำหรับสิ่งปลูกสร้างไว้ 69 แบบ ซึ่งก่อนคิดภาษีจะต้องนำค่าเสื่อมมาหักก่อน"
          นายรังสรรค์อ้างว่า "การปรับลดเพดานดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน" ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่า ข้อนี้เป็นความเข้าใจผิด ไม่จำเป็นต้องมีข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งนี้เพื่อความเท่าเทียมกัน
          อย่างกรณีบ้านหลังหนึ่งมีราคาแค่ 500,000 บาท สำหรับผู้มีรายได้น้อย หากเสียภาษี 0.1% ก็เป็นเงินเพียง 500 บาทต่อปี หรือเดือนละ 42 บาท ถูกกว่าค่าจัดเก็บขยะเสียอีก ถ้าเราให้จัดเก็บที่ 1% เป็นงิน 5,000 บาทต่อปี หรือเดือนละ 417 บาท ก็อาจสูงกว่าค่าจัดเก็บขยะเล็กน้อย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างก็เอามาทดแทนค่าจัดเก็บขยะ และยังสามารถนำมาใช้สร้างสวัสดิภาพชุมชน สร้างสาธารณูปโภค สร้างประโยชน์ต่อชุมชนได้อเนกอนันต์กว่าการไม่จัดเก็บภาษี
          ในแต่ละปีแม้แต่รถจักรยานยนต์คันละ 30,000 บาท ก็ยังต้องเสียภาษีคันละ 100 บาท หรือ 0.33% สูงกว่าการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเสียอีก ความพยายามในการลดโน่นนี่นั้นแท้จริงแล้วหวังช่วยคนรวยมากกว่า โดยเฉพาะในกรณีที่ดินว่างเปล่า ที่เพดาน 4% ก็ลดลงเหลือ 2% สมมติมีที่ดินว่างเปล่าใจกลางเมือง 1,000 ตารางวา ๆ ละ 200,000 บาท เป็นเงิน 200 ล้านบาท หากไม่ใช้ประโยชน์อย่างยาวนาน ก็จะต้องเสียภาษีถึง 4% หรือปีละ 8 ล้านบาท ก็ลดลงเหลือ 4 ล้านบาท เป็นต้น การลดภาษีนี้จึงมุ่งช่วยคนรวย ๆ เท่านั้น แต่เพียงเอาคนชั้นกลางที่มีจำนวนมากมาอ้าง เพื่อหาความชอบธรรมในการลดภาษีช่วยคนรวยเป็นสำคัญ
          การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะทำให้เลิกจัดเก็บภาษีอื่น เช่น ภาษีและค่าธรรมเนียมโอนอสังหาริมทรัพย์ ภาษีโรงเรือน ค่าจัดเก็บขยะ ค่าบำรุงที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ไม่ถึง 10% ของรายได้ของท้องถิ่น ทำให้ท้องถิ่นต้องพึ่งเงินจากส่วนกลาง ซึ่งได้เงินจากการเก็บภาษีทางอ้อมอื่น ๆ ทำให้ท้องถิ่นไม่เป็นตัวของตัวเอง เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย หากท้องถิ่นจัดเก็บภาษีเอง ใช้เองในท้องถิ่น การโกงก็จะน้อยลง เพราะไม่ใช่เงินที่ส่งมาจากส่วนกลาง จะไม่เกิดอาการ "วัดครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่งหนึ่ง" คนในท้องถิ่นจะร่วมกันจับตาดู ไม่ให้เกิดโอกาสรั่วไหล


"ดร.โสภณ เป็นประธานจัดประกวดสุนทรพจน์ ชิงโล่รางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เรื่อง “ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างช่วยพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาประชาธิปไตย พัฒนาชาติ” เมื่อเร็ว ๆ นี้ http://bit.ly/1Dg98B4


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved