AREA แถลง ฉบับที่ 58/2558: วันพุธที่ 11 มีนาคม 2558
ขอเห็นต่างจากคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง
เรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ดร.โสภณ ขอเห็นต่างจากคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตขุนคลัง เรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แม้ไม่มีรายได้ก็สามารถจัดเก็บได้ และควรจัดเก็บโดยไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น
ตามที่คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ท่านอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้โพสต์ใน fb แสดงความไม่เห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เห็นต่างจากท่านจึงขอแสดงความเห็นในอีกแง่มุมหนึ่งเพื่อให้เกิดพิจารณาอย่างรอบด้าน
1. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่างจากภาษีรายได้ทั้งหลาย คือ ไม่จำเป็นต้องมีรายได้ก็เก็บภาษีตามการครอบครอง เช่นแนวกับภาษีรถยนต์ หรือภาษีล้อเลื่อน โดยในปัจจุบันหากเราครอบครองรถจักยานยนต์เก่า ๆ ไว้คันหนึ่งมูลค่าเพียง 30,000 บาท ก็ต้องเสียภาษีประจำปีอย่างน้อย 100 บาท เป็นต้น (0.33%)
2. กรณีจัดเก็บภาษีเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ที่ให้เช่านั้น ก็เกิดความลักลั่นได้ เพราะมีคนจำนวนมากที่ให้เช่าโดยไม่ได้แจ้งว่ามีการเช่า และอัตราภาษีโรงเรือนที่ 12.5% ค่อนข้างสูง จึงมีการเลี่ยงด้วยวิธีการต่าง ๆ นา ๆ ในกรณีนี้ในฮ่องกงและอีกหลายประเทศจึงกำหนดอัตราภาษีไว้ประมาณ 5% ของค่าเช่าตลาด โดยเก็บกับบ้านทุกหน่วยไม่ว่าจะปล่อยเช่าหรือไม่ก็ตาม เพื่อความเท่าเทียมในการเสียภาษีสำหรับการครอบครองทรัพย์สิน
3. ภาษีนี้แม้จะเก็บในวงกว้างซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ควรมีข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อจะได้ไม่เกิดความลักลั่น เหลื่อมล้ำ แต่ภาษีนี้มีคุณอย่างยิ่ง เพราะ "ยิ่งให้ ยิ่งได้" ซึ่งเสียภาษีประมาณ 1% ต่อปี (แต่รัฐบาลจะจัดเก็บเพียง 0.1% โดยประมาณ) แต่เมื่อนำเงินนี้มาพัฒนาท้องถิ่นก็จะทำให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นปีละ 4-5% หรือเรียกง่ายๆ ว่าได้มากกว่าเสียนั่นเอง
4. ในกรณีที่ดินราคาแพงในทำเลทองซึ่งมักเป็นทำเลที่มีบรรยากาศวุ่นวายไม่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยในปัจจุบันรวมทั้งการจราจรติดขัด ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เจ้าของที่ดิน เจ้าของบ้านในใจกลางเมืองจะขยับขยายออกไปอยู่ที่อื่นพร้อมเงินก้อนใหญ่จากการขายทรัพย์สิน นายทุนก็ไม่ได้ปล้นชิงแต่มักซื้อตามราคาตลาดอย่างเป็นธรรม คหบดีหรือผู้ดีเก่าในย่านใจกลางเมืองจะมาอ้างความเคยชินหรืออดีตที่หวนกลับคืนมาไม่ได้ ไม่ได้
อย่างไรก็ตามดร.โสภณ เห็นด้วยกับคุณกิตติรัตน์ ในแง่ที่ไม่ควรหมกเม็ดอ้างที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม เพราะนายทุนอาจแสร้งปลูกพืชผลในพื้นที่ทำเลทองเพื่อเลี่ยงภาษี ซ้ำร้ายเพดานภาษีสำหรับที่ดินว่างเปล่ายังได้ถูกฉวยโอกาสลดหย่อนจาก 4% เหลือ 2% ซึ่งไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งกว่านั้น ดร.โสภณ มองว่าการออกมา "ชักเข้า ชักออก" เรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้ อาจเป็นเพียงข้ออ้างในการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งกระทบต่อทุกหย่อมหญ้ามากกว่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเสียอีก ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีที่เก็บเข้าส่วนกลางและทำให้ส่วนกลางควบคุมส่วนท้องถิ่น โดยการจัดสรรงบประมาณและทำให้เกิดการทุจริตในระหว่างทางได้
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
|