เมื่อวานนี้มีข่าวว่า "นายกฯ ขอให้ชะลอเรื่องนี้ออกไปก่อน . . . เพราะเวลานี้เศรษฐกิจยังมีปัญหา ยังไม่ค่อยพร้อม และเศรษฐกิจโลกยังไม่ดี สังคมยังไม่พร้อม ยังมีข้อที่ไม่เห็นด้วยกันอยู่ นายกฯ คิดว่าอาจเป็นภาระกับประชาชนที่มีรายได้น้อย จึงให้ไปศึกษาแนวทางเพื่อให้สิ่งที่จะดำเนินการต้องไม่กระทบกับประชาชนในอนาคต ส่วนจะชะลอออกไปนานหรือไม่คงต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมต่อไป คงไม่เกี่ยวกับกระแสการกดดันของสังคม" (http://goo.gl/yBZeDm)
          การแถลงของทางราชการเมื่อวานนี้ ขัดกับหลักความจริง  ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) จึงกล่าวว่า:
          1. ที่ว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีนั้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่มีรัฐประหารแล้ว หรือมีภาวะเช่นนี้มานานพอ ๆ กับการเสนอของรัฐบาลที่จะให้มีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ไม่ได้เพิ่งไม่ดีในขณะนี้ จึงไม่อาจถือเป็นข้ออ้างในการชลอการใช้ภาษีนี้
          2. ที่ว่าเศรษฐกิจโลกไม่ดีนั้น ไม่เป็นความจริง "ประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป อังกฤษ ญี่ปุ่น ในช่วงปี 2557-2559 ต่างฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ . . . สำหรับอนาคตการเติบโตของประเทศในเอเซียแปซิฟิกนั้น. . .ค่าเฉลี่ยของประเทศในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกที่ 6.7%. . .ประเทศในภูมิภาคนี้ต่างก้าวกระโดดไปข้างหน้า" (http://goo.gl/P3kxj0)
          3. ในข้อแถลงของโฆษกรัฐบาลบอกว่า "สังคมยังไม่พร้อม (แต่) คงไม่เกี่ยวกับกระแสการกดดันของสังคม" ถือเป็นการแถลงที่ขัดกันเองอย่างชัดเจน หากไม่มีกระแสความกดดัน จะมาอ้างว่ายังไม่พร้อมได้อย่างไร
          4. แม้เศรษฐกิจจะตกต่ำ หรือหากเกิดภาวะวิกฤติ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ก็ยังสมควรนำมาใช้ เพราะยิ่งพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญ มูลค่าทรัพย์สินของเราเองยิ่งงอกเงย ยิ่งไม่เสียภาษีมาพัฒนาท้องถิ่น ท้องถิ่นทรุดโทรม เศรษฐกิจของตัวเราเองยิ่งถดถอย ภาษีที่เสียเข้าส่วนกลางยิ่งถูกโกง
          5. เป็นความเข้าใจผิดของรัฐบาลที่ว่าภาษีนี้จะเป็นภาระแก่ประชาชน ภาษีนี้ดีจริงๆ "ยิ่งเสีย ยิ่งได้" ต่างหาก เป็นภาษีที่ไม่ต้องนำส่งส่วนกลาง จึงตัดวงจรการโกง เอามาพัฒนาท้องถิ่นโดยตรง ยิ่งท้องถิ่นมีการพัฒนา มูลค่าทรัพย์สินก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ถึงแม้จะเสียปีละ 1% ของมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเช่นในอารยประเทศ แต่มูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกลับเพิ่มขึ้นถึงปีละ 4-5% มีแต่ได้กับได้ จึงไม่มีอะไรน่ากลัว ส่วนในรายละเอียด ใครไม่มีเงินจ่ายภาษีจะแก้ไขอย่างไร ก็คงเป็นประเด็นปลีกย่อยเท่านั้น
          6. การเลื่อนการจัดเก็บภาษีนี้ออกไป ก็เท่ากับเป็นการช่วยคหบดีมีที่ดินมากต่างหาก เพราะสำหรับประชาชนเก็บเพียงนิดเดียว แต่เจ้าที่ดินรายใหญ่มีที่ดินนับพันนับหมื่นล้านโดยเฉพาะที่ว่างเปล่า ต้องเสียภาษีสูง ดังนั้นการชลอหรือเลิกเก็บภาษีนี้ จึงเป็นการอุ้มคนรวย เช่นเดียวกับกรณีการชลอไปแล้วของภาษีมรดกนั่นเอง
          รัฐบาลควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีที่เป็นคุณต่อคนทั่วไปนี้ อย่าพูดกันคนละทางสองทาง ทำให้ชาวบ้านสับสนและต่อต้านซึ่งเท่ากับทำให้คนรวยไม่ต้องเสียภาษีอีกตามเคย

ดูวิดิโอบน Youtube: http://youtu.be/PFJZY5ORkTI