ในเดือนธันวาคม 2552 มีจำนวนโครงการเกิดใหม่รวมทั้งสิ้นจำนวน 19 โครงการ และมีจำนวนน้อยกว่าเดือนที่ผ่านมาจำนวน 3 โครงการ ลักษณะการพัฒนาเป็น การพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้งหมด อสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดนี้มีจำนวนหน่วยขายรวมทั้งสิ้น 3,391 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 8,250 ล้านบาท ประเภทที่มีการพัฒนามากที่สุด คือ ทาวน์เฮ้าส์ มีจำนวนมากถึง 2,280 หน่วย (672%) รองลงมาคือ อาคารชุดมีจำนวน 744 หน่วย (228%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยวมีจำนวนเพียง 268 หน่วย (79%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด
ลักษณะการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดกลับมี การพัฒนาลดลงเดือนที่ผ่านมา (พฤศจิกายน 2552) และมีการพัฒนาทาวน์เฮ้าส์มากขึ้น โดยประเภททาวน์เฮ้าส์ที่มีการพัฒนามากเป็นอันดับ 1 คือ ระดับราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 1,631 หน่วย (715%) รองลงมา คือ ระดับราคา 0501-1000 ล้านบาท จำนวน 513 หน่วย (225%) ของจำนวนทาวน์เฮ้าส์ที่เปิดขายทั้งหมด
เมื่อพิจารณามูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนธันวาคม 2552 นี้มีจำนวนทั้งสิ้น 8,250 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเดือนที่ผ่านมามากถึง 13,654 ล้านบาท (เดือนพฤศจิกายน 2552 มีมูลค่า 21,904 ล้านบาท) หรือลดลงประมาณ 62% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาจะเน้นพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับราคาค่อนข้างถูกจนถึงปานกลางเป็นสำคัญ คือที่ระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีจำนวน 887 หน่วย (262%) และที่ระดับราคา 1-2 ล้านบาท มีจำนวน 1,691 หน่วย (499%) ของจำนวนหน่วยที่เปิดขายทั้งหมด
หากพิจารณาระดับราคาขายจะพบว่าในเดือนนี้ มีการเปิดขายที่ระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท จำนวนรวม 2,578 หน่วย (760%) มีมูลค่าโครงการรวม 3,180 ล้านบาท (385%) ที่ระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 182 หน่วย (54%) มีมูลค่าโครงการ 402 ล้านบาท (49%) ที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 397 หน่วย (117%) มีมูลค่าโครงการ 1,364 ล้านบาท (165%) ส่วนที่มีระดับราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไปมีจำนวน 234 หน่วย (69%) มีมูลค่าโครงการ 3,304 ล้านบาท (40%) ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้
หากพิจารณาประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือทาวน์เฮ้าส์ มีมูลค่ามากถึง 3,108 ล้านบาท (377%) รองลงมาคือ อาคารชุดมีมูลค่า 2,875 ล้านบาท (349%) และอันดับ 3 คือบ้านเดี่ยว มีมูลค่า 2,094 ล้านบาท (254%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมด ดังนั้นภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้จะเน้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ระดับล่างถึงปานกลางเป็นสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับราคา 1-2 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามหากพิจารณามูลค่าโครงการโดยรวมจะต่ำกว่าเดือนที่ผ่านมามากถึง 62% แต่มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยสูงกว่าเล็กน้อย เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้มีจำนวนหน่วยขายต่ำกว่าเดือนที่ผ่านมาจำนวน 6,055 หน่วย (เดือนพฤศจิกายน 2552 มีจำนวนหน่วยขาย 9,446 หน่วย) และในเดือนนี้ราคาขายส่วนใหญ่ประมาณ 76% จะมีระดับราคาไม่เกิน 2000 ล้านบาท แต่มีจำนวนหน่วยขายที่ระดับราคาเกิน 10 ล้านบาทเปิดขายรวมอยู่ประมาณ 4% จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน
เมื่อพิจารณาอัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 16% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ขายดีอันดับ 1 คือ อาคารชุด ระดับราคา 5-10 ล้านบาท มีจำนวน 104 หน่วย ขายได้แล้ว 58 หน่วย (56%)
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ เป็นบริษัทมหาชนจำนวน 3 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) จำนวน 6 โครงการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 โครงการ และ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 โครงการ นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทมหาชน และบริษัททั่วไป