เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 ได้เกิดเหตุระเบิดขนานใหญ่ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย และที่สหกรณ์โคอ็อป สุราษฎร์ธานี ซึ่งคาดว่าจะเป็นวินาศกรรม และก่อนหน้านี้เมื่อเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2558 ได้มีการขว้างระเบิดเข้าไปในศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เหตุการณ์เช่นนี้หากเกิดขึ้นขึ้นบ่อย ๆ ก็จะส่งผลต่อมูลค่าทรัพย์สินของประชาชน ทำให้มูลค่าทรัพย์สินลดลงหรือไม่เพิ่มขึ้นเท่าที่ควร
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ขอยกตัวอย่างในกรณีของประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะที่เคยทำงานในโครงการที่ปรึกษาของกระทรวงการคลัง อินโดนีเซีย และเป็นผู้เชี่ยวชาญของธนาคารโลก สาขาจาการ์ตา ในช่วงที่ผ่านมา
ในช่วงหลังวิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองครั้งใหญ่หลังการล่มสลายของระบอบเผด็จการทรราชซูฮาร์โตซึ่งโกงกินมากที่สุดในโลก (http://goo.gl/RhWaI) ในปี 2541 ปรากฏว่าเกิดสามัคคีเภทในหมู่ประชาชนชาวอินโดนีเซีย และทำให้เกิดการวางระเบิดในพื้นที่ต่าง ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน และแทบทุก 6 เดือนจะเกิดระเบิดครั้งใหญ่ ทำให้อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวน้อยมาก ทั้งที่เป็นประเทศใหญ่มีศักยภาพสูง
อย่างในบาหลีเมื่อเกิดเหตุการณ์ระเบิดในวันที่ 12 ตุลาคม 2545 โดยมีคนตายนับร้อย ก็ทำให้นักท่องเที่ยวหดจาก 1.218 ล้านในปี 2545 เหลือเพียง 1.034 ล้านในปี 2546 และเมื่อเกิดระเบิดอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 1 ตุลาม 2548 ก็ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจาก 1.461 ล้านคนในปี 2548 เหลือเพียง 1.261 ล้านคนในปี 2549 เป็นต้น (http://goo.gl/nYxwLv)
เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินโดนีเซียให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า การจะรบกับผู้ก่อความไม่สงบที่หลบอยูในมุมมืดนั้น กระทำได้ลำบากมาก แต่ผู้ก่อความไม่สงบเกิดขึ้นเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมในรูปแบบต่าง ๆ จึงเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น เข้าทำนอง "ยุติธรรมไม่มี สามัคคีไม่เกิด" หากสังคมได้รับการแก้ไขด้วยความยุติธรรม ปัญหาความไม่สงบก็จะหมดไปเอง ดังเช่นอินโดนีเซียในปัจจุบันที่แทบไม่มีข่าวการก่อการร้ายหรือเหตุระเบิดบ่อยครั้งเช่นในอดีต
ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่เคยขยายตัวเข้ามาในกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นปัญหาในคนละพื้นที่ เหตุระเบิดต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร น่าจะเป็นปัญหาการเมืองภายในประเทศเอง หากขยายตัวออกไป หรือเกิดขึ้นบ่อย ๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว การลงทุน ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านต่างช่วงชิงนักลงทุนให้ไปลงทุนแทนที่ประเทศไทยอยู่ในเวลานี้ หากการลงทุนมีน้อย ก็ย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจทีซบเซา สวัสดิภาพของประชาชน และทำให้มูลค่าทรัพย์สินลดลงหรือไม่งอกเงยได้
เหตุการณ์ระเบิดจึงเป็นเครื่องชี้ภาวะความสำเร็จของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ รัฐบาลควรสร้างความยุติธรรมในสังคมอย่างแท้จริง และประชาชนชาวไทยก็ควรช่วยกันสอดส่องเพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบ ยิ่งกว่านั้นหากมีการรักษากติกาประชาธิปไตย ให้มีการเลือกตั้งให้ตัดสินปัญหาการเมืองด้วยการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมโดยรัฐบาลคอยอำนวยความสะดวก ก็อาจจะทำให้ปัญหาคลี่คลายไปได้