ด่วน คาดการณ์อสังหาริมทรัพย์ปี 58 หดตัว แต่ราคาพุ่ง
  AREA แถลง ฉบับที่ 100/2558: วันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2558

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

ดร.โสภณ คาดการณ์จำนวนหน่วยจะลดลง 14% แต่ราคาลดลงเพียง 6% ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวใหม่ราคาเพิ่มขึ้น 9.3% แสดงว่าคนที่มีฐานะดีอาจไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะเศรษฐกิจ

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) คาดการณ์ว่าในปี 2558 นี้ จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดใหม่ 98,094 หน่วย น้อยกว่าปีที่แล้ว 14% ด้วยปีที่แล้วมีหน่วยขายเปิดใหม่ 114,094 หน่วย ส่วนมูลค่าของโครงการเปิดใหม่ก็หดตัวลงด้วย โดยหดตัวลง 6% จาก 344,549 ล้านบาทในปี 2557 เป็น 323,709 ล้านบาทในปี 2558 อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ ราคาขายของสินค้าใหม่ต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก 3.02 ล้านบาท เป็น 3.3 ล้านบาทต่อหน่วย

            การหดตัวนี้เป็นการหดตัวต่อเนื่องมาจากจุดสูงสุดในปี 2556 โดยในปี 2557 หดตัวลง 11% ในแง่มูลค่าการพัฒนา โดยลดจากที่เคยสูงสุดในปี 2556 ที่ 385,447 ล้านบาท ส่วนในด้านจำนวนหน่วย ก็ลดลง 13% โดยลดลงจากปี 2556 ที่มีสูงสุดถึง 131,645 หน่วย ทั้งนี้เป็นผลจากการเมืองในปี 2557 และในปี 2558 คงเป็นผลต่อเนื่องกัน แม้ว่าทางราชการจะพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ก็ตาม

            การตกต่ำในปี 2558 นี้ต่างจากปี 2540 ที่ในปี 2540 ผู้มีรายได้สูงหรือผู้ประกอบการประสบปัญหาล้มละลาย หรือแก้ไขปัญหาหนี้สินเป็นอันมาก สถาบันการเงินล้มละลายไปเป็นจำนวนมาก บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เกือบร้อยแห่ง เหลือรอดเพียงหนึ่งในสี่ แต่ในปี 2558 นี้ สถาบันการเงิน และธุรกิจขนาดใหญ่ ยังแข็งแกร่งมีกำไร ส่วนธุรกิจ SMEs และประชาชนผู้มีรายได้ปานกลาง และรายได้น้อย อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจมากที่สุด

             อนึ่งในไตรมาสแรกของปี 2558 พบว่า มีหน่วยขายเกิดใหม่ 22,294 หน่วย รวมมูลค่า 95,019 ล้านบาท และราคาอสังหาริมทรัพย์ต่อหน่วยสูงถึง 4.26 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาพที่ชี้ให้เห็นว่า จำนวนหน่วยหดตัวลงอย่างมาก แต่ราคาขายกลับพุ่งสูงขึ้น ผู้บริโภคสินค้าที่อยู่อาศัยในระดับสูงยังมีกำลังซื้อที่หนาแน่น การเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า ยังเป็นความหวังหลักที่น่าสนใจที่สุด

            ดร.โสภณ เสนอให้รัฐบาล เร่งคุ้มครองผู้บริโภค โดยให้การประกันเงินดาวน์ของลูกค้าซื้อบ้านเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องทำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เช่นที่เกิดขึ้นแทบทุกวัน การคุ้มครองนี้ จะเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินเอง เพราะจะได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภคมากขึ้น นอกจากนี้ยังควรพัฒนาระบบรถไฟฟ้าทั้งแบบมาตรฐานและแบบมวลเบา โดยให้สัมปทานแก่รายย่อยในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้มีผู้ประกอบการมากราย และไม่ต้องกู้เงินมาพัฒนาเอง โดยให้มีการประสานกัน และ “ไม่เสียค่าโง่” ในการทำสัญญากับภาคเอกชน เป็นต้น

อ่าน 2,218 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved