ตามที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในรายการคืนความสุขให้ประชาชนเมื่อคืนวันที่ 5 พฤษภาคม 2558 ว่า "ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจน มีจำนวนมากได้รับการรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า จำนวนนักท่องเที่ยวในเดือนพฤษภาคม 2558 ที่ผ่านนั้น ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดิมร้อยละ 30" (http://goo.gl/NRsKkh) ความข้อนี้มีความเป็นไปได้สูง แต่ยังถือว่าการท่องเที่ยวไทยยังไม่สดใส โดย ดร.โสภณ มีตัวเลขมานำเสนอเพื่อให้รัฐบาลมีตัวเลขจริงในการวิเคราะห์สถานการณ์และการเตรียมรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากจริงจากตัวเลขอย่างเป็นทางการของกรมการท่องเที่ยว โดยเพิ่มขึ้นจาก 6,375,880 คน มาเป็น 7,876,726 คน หรือ 24% เมื่อเทียบระหว่างไตรมาสแรกของปี 2557-2558 โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวในเดือนมีนาคม เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 26% อย่างไรก็ตามจะพบว่าการเพิ่มขึ้นนี้ เป็นการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนถึงราว 1 เท่าตัวเพราะได้รับการยกเว้นวีซ่าแล้ว ในขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวจากประเทศรัสเซียกลับลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ โดยลงลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง จาก 699,820 คน มาเป็น 323,552 คนในไตรมาสแรกนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ (ยกเว้นที่มาจากอาเซียน จีนและรัสเซีย)
ยิ่งหากเทียบระหว่างไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 ซึ่งยังไม่เกิดภาวะความไม่สงบทางการเมือง กับห้วงเวลาเดียวกันของปี 2558 จะพบว่า นักเท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเพียง 12% เท่านั้น โดยเพิ่มขึ้นจาก 7,007,904 คน เป็น 7,876,726 คน ยิ่งหากพิจารณาจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ (ยกเว้นที่มาจากอาเซียน จีนและรัสเซีย) ก็เพิ่มขึ้นเพียง 1% เท่านั้น
แม้นักท่องเที่ยวจีนจะมาท่องเที่ยวมาก แต่รายได้จากนักท่องเที่ยวจีนได้รับน้อยกว่ากลุ่มอื่น นักท่องเที่ยวจากอาเซียน จีน รัสเซีย และกลุ่มอื่น ๆ มาใช้สอยต่อคนในปี 2555 เป็นเงิน 38,369, 25,295, 64,696, 53,278 และ 44,016 บาทตามลำดับ ดังนั้นหากเทียบเม็ดเงินที่ได้จากนักท่องเที่ยวในไตรมาสแรกของแต่ละปี จะพบว่า ปี 2557 อาจลดลง 8% แต่ในปีนี้ กลับเพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้ว 14% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่น้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวจีนใช้เงินน้อยกว่านั่นเอง ยิ่งเมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปี 2556 รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเพียง 5% เท่านั้น
จากความเห็นของผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินในพัทยา ซึ่งก็คงคล้ายกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น พบว่า นักท่องเที่ยวจีนต่างจากนักท่องเที่ยวรัสเซียหรือประเทศตะวันตกอื่น ที่ยังไม่มีความคิดที่จะลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย ดังนั้นการมาของนักท่องเที่ยวจีน จึงไม่ได้ส่งผลต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งกว่านั้นในแง่ของโรงแรมที่พักของนักท่องเที่ยวจีน ยังเน้นที่ราคาถูก ดังนั้น จึงมีผลต่อกิจการโรงแรมจำนวนหนึ่งเท่านั้น
โดยที่เศรษฐกิจรัสเซียกำลังย่ำแย่ ผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน จึงพบว่า นักลงทุนรัสเซียที่มาซื้อห้องชุดพักอาศัยในประเทศไทย ได้หยุดการซื้อไปแทบหมดแล้ว ตลาดไปต่อไม่ได้ ที่จ่ายเงินดาวน์ไว้แล้ว ก็ดึงกำหนดการโอนออกไปให้นานที่สุด เพราะค่าเงินรัสเซียตกต่ำหนักมาก ตลาดขณะนี้จึงมีการขายใบจองจากนักลงทุนรัสเซียเป็นจำนวนมาก และมีความเป็นไปได้ที่ในที่สุดนักลงทุนรัสเซียจำนวนมาก อาจทิ้งเงินดาวน์ สร้างความสั่นสะเทือนทางกระแสเงินสดของผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินในจังหวัดท่องเที่ยว
อาจกล่าวได้ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยว 7,007,904 คนในปี 2556 ควรเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2557 และ 2558 หากไม่มีความไม่สงบทางการเมืองและรัฐประหาร ในไตรมาสแรกของปี 2558 น่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 8,479,564 คน แทนที่จะเป็น 7,876,726 คนตามตัวเลขที่ปรากฏจริง ดังนั้นรัฐบาลจึงควรเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะเป็นการท่องเที่ยวที่ยังยืนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ