ตามที่ทางราชการมีนโยบายจะให้ภาคเอกชนรายใหญ่ ๆ เช่าที่ดินชายแดนซึ่งจะประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในราคาที่ค่อนข้างถูก ดร.โสภณ ถามดังๆ ว่าราคาที่ให้เช่าเหมาะสมแล้วหรือ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส" กล่าวถึงข่าวการเช่าที่ดิน เช่น กนอ.เล็งม.44ลุย5เขตศก.พิเศษ เคาะค่าเช่า1-1.5แสนบ./ไร่/ปี" "เคาะค่าเช่าที่ดิน เขตศก.พิเศษ สงขลา แพงสุด2.2แสน/ไร่ มุกดาหารถูกสุด1.2 แสน/ไร่" ว่า การเช่าที่ดินในลักษณะนี้ ควรมีการประเมินค่าทรัพย์สินโดยผู้ประเมินค่าทรัพย์สินอิสระที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นกลางเสียก่อนจะประกาศเป็นนโยบายค่าเช่า การขาดการประเมินค่าทรัพย์สินที่สมควรอาจนำไปสู่การทุจริตได้
ยกตัวอย่างนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ จังหวัดสงขลา ซึ่งตั้งอยู่ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีราคาขายไร่ละ 1.6 ล้านบาท หากสมมติว่า
1. ราคาที่ดินที่ขายนี้หากลบด้วย Soft Costs หรือลบกำไร ดอกเบี้ย ค่าดำเนินการ ภาษี ฯลฯ จะเป็นเงิน 70% ก็จะเหลือเป็นเงินไร่ละ 1,120,000 บาท
2. หากประมาณว่าค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสาธารณูปโภคในโครงการเป็นเงิน 250,000 บาทต่อไร่ ก็จะเหลือเงินไร่ละ 870,000 บาท
3. หากพื้นที่ขายสุทธิเท่ากับ 70% ของพื้นที่ทั้งหมด ราคาที่ดินก็จะเหลือประมาณ 609,200 บาท (870,000 x 70%)
ราคาที่ดินดิบที่ 609,200 บาทนี้ ทางราชการจะให้เช่าเพียงไร่ละ 40,000 (http://goo.gl/6oyUWh) หรือเพียง 6.5% ของมูลค่าทรัพย์สิน อีกทั้งทางราชการยังจะพัฒนาสาธารณูปโภคให้ตามข้อ 2 อีกต่างหาก จึงอาจเห็นว่าค่าเช่าดังกล่าวอาจต่ำเกินความเป็นจริง และผู้เช่าได้ประโยชน์จากการจัดตั้งนิคมฯ สูงเกินไปหรือไม่
ยิ่งกว่านั้น ในนิคมอุตสาหกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ยังมีพื้นที่เหลืออยู่อีกพอสมควร ทางราชการน่าจะต่อรองกับเจ้าของ เพื่อขายให้ภาคเอกชนไปตั้งโรงงาน หรือทางราชการซื้อจากนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในราคาที่มีส่วนลดเพราะซื้อเป็นแปลงใหญ่ แล้วนำมาให้ภาคเอกชนเช่าระยะยาว น่าจะเหมาะสมกว่าการไปสร้างนิคมอุตสาหกรรมใหม่หรือไม่ ข้อนี้เป็นข้อที่พึงพิจารณาเช่นกัน