ผมไปเห็นสิ่งละอันพันละน้อยในระหว่างพาคณะไปสำรวจบ้านจัดสรรและอาคารชุดในกรุงมะนิลา ในช่วงวันที่ 14-20 มิถุนายน 2558 จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
หลายท่านคงยังจำประธานาธิบดีเจเซฟ เอสตราดาได้นะครับ ท่านผู้นี้เคยถูกศาลพิพากษาจำคุกฐานทุจริตระหว่างดำรงตำแหน่ง แต่ข่าวว่าไม่ได้จำคุกจริง ตัวจริงอยู่นอกคุก และสุดท้ายก็ได้รับการอภัยโทษออกจากคุกแล้ว แต่โดยที่เคยมีคดีโกง เลยสมัครในตำแหน่งประธานาธิบดีไม่ได้ แต่ท่านก็ยังชอบเล่นการเมือง ตอนนี้เลยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองมะนิลา
เมืองมะนิลาเป็นหนึ่งในหกเมืองของกรุงมะนิลา น่าสังเกตว่ากรุงมะนิลามีขนาดใหญ่พอๆ กับกรุงเทพมหานครของเรา แต่เขาแบ่งเป็นหลายเมือง และยังมีเทศบาลอีกนับสิบแห่ง ไม่ได้รวมศูนย์แบบ กทม. การนี้มีทั้งแง่ดีและแง่ลบ แง่ดีก็คือแต่ละเมืองดูแลประชาชนได้ใกล้ชิดขึ้น ส่วนแง่ลบก็คือบางครั้งก็ขาดการประสานงานกัน เช่นในเมืองมะนิลาที่เอสตราดาเป็นนายกเทศมนตรีนั้น ห้ามรถบรรทุกเข้าเมือง เพราะกลัวรถติด ในขณะที่ท่าเรือใหญ่ผ่าไปอยู่ในพื้นที่ของเขา
ปาเกียว นักชกที่ยิ่งใหญ่ของฟิลิปปินส์ ก็ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาเหมือนกัน ที่ประเทศนี้ ดาราเป็นนักการเมืองกันเป็นจำนวนมาก ประชาชนคงนิยมชมชอบดารากันเป็นอย่างมาก นี่ถ้า “มิตร ชัยบัญชา” ยังไม่ตาย ป่านนี้ก็คงเป็นใหญ่ในทางการเมืองไปแล้ว เพราะเป็นดารารุ่นเดียวกับนายเอสตราดา และก่อนที่มิตรจะเสียชีวิต ก็เคยลงสมัคร ส.ส. เช่นกัน น่าเสียดายครับ
ในฟิลิปปินส์ การทุจริตและประพฤติมิชอบมีอยู่ทั่วไป ตอนนี้ก็มีข่าวว่าประธานาธิบดีอควิโนที่ได้รับเลือกตั้งอย่างถล่มทะลาย ก็กำลังประสบปัญหา ประชาชนเข้าใจว่าท่านไม่โกง แต่เชื่อว่าคณะรัฐมนตรีและคนใกล้ชิดของท่านโกง แต่ท่านก็ไม่ปลดออก ไม่รู้คล้ายกับประเทศสารขันธ์หรือเปล่า ทั้งนี้ต่างจากประธานาธิบดีของอินโดนีเซียที่ขู่จะปลดรัฐมนตรีที่ไร้ผลงาน ในเรื่องการโกงนี้ ลูกชายคนหนึ่งของเอสตราดา ก็ยังติดคุกอยู่เลยเพราะถูกจับได้ว่าทุจริต
เพราะมีการทุจริตจึงมีการโกงกันมากมาย ในความเป็นจริงในอดีตประเทศนี้เจริญกว่าไทยเสียอีก มีการวางผังเมืองที่ดี มีย่านธุรกิจที่ทันสมัย แต่เพราะมีการโกงกันมาก เลยเจริญช้าหรือไม่ก็ถดถอย สลัมที่นี่ก็มีอยู่มากกว่าบ้านเรา ซึ่งเป็นแหล่งซื้อสิทธิ์ขายเสียง ถ้าชุมชนใดไม่เลือกนักการเมืองที่สั่งมา ก็อาจถูกไล่รื้อภายหลังการเลือกตั้งได้ แม้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงมากกว่าเรา ก็ไม่มีใครอ้างเป็นข้ออ้างเพื่อทำรัฐประหารนะครับ เดี๋ยวนี้แม้แต่ค่ายทหาร รัฐบาลก็เอามาเซ้งทำเป็นโครงการบ้านจัดสรร กาสิโน หรือเมืองใหม่กันแล้ว
รถราในกรุงมะนิลาติดหนักมาก รถไฟฟ้าก็มีแค่ 3 สายและยังไม่เพียงพอ รถไฟฟ้าก็ผ่าผ่านย่านใจกลางเมืองเดิมที่ตอนนี้เสื่อมโทรมลง และอีกเส้นก็อยู่รอบนอก เมืองก็เลยขยายตัวออกไปเลยรอบนอกไกลออกไปอีก แต่ในย่านศูนย์ธุรกิจใหม่แถวถนนอะยาลา กลับไม่มีรถไฟฟ้า ต้องเดินราว 1-2 กิโลเมตร ในช่วงเช้าและเย็นจึงพบผู้คน “เดินขบวน” ระหว่างบ้านกับที่ทำงานกันใหญ่ แต่การจราจรในกรุงมะนิลา ยังไม่ติดขัดเท่ากรุงจาการ์ตาที่ผมกำลังจะไปเยือนในเดือนกรกฎาคม ศกนี้
รัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหารถติดด้วยการกำหนดให้รถที่มีทะเบียนลงท้ายด้วย 1-2, 3-4, 5-6, 7-8 และ 9-0 ห้ามวิ่งในวันจันทร์-ศุกร์ ตามลำดับ หากใครฝ่าฝืนจะถูกปรับประมาณ 1,000 เปโซหรือราว 700 บาท มาตรการนี้ส่งผลให้ผู้พอมีอันจะกินเลยซื้อรถไว้หลายคัน ส่วนในภาคเอกชนก็ช่วยตนเองด้วยการมีรถสองแถวลักษณะแปลกตาเรียกว่า “Jeepney” เพราะสร้างเลียนแบบรถจีป ผแต่ไม่เหมือนเท่าไหร่ วิ่งประจำทางบ้าง ไม่ประจำทางบ้าง ชาวบ้านมักต้องโบกเรียกว่าจะผ่านทางไหนบ้าง
อาชญากรรมที่นี่ก็มากพอสมควร นั่งอยู่ในรถ ผ่านย่านสลัม ก็มีคนมาเคาะรถ จะจอดรถก็มีคนมาคอยโบกให้ ก็ต้องจ่ายค่าจอดกันไป หาไม่รถที่จอดอยู่อาจไม่ปลอดภัย เคยมีเด็กนักเรียนใส่สร้อยคอทองคำไปโรงเรียน โจรก็มากระจากไป ไม่เพียงเท่านี้โจรกลับมาใหม่ เพราะเข้าใจว่าเป็นของปลอม เสียเวลาโจร โจรเลยบังคับให้เด็กกลืนสร้อยคอเข้าไป เรื่องแบบนี้หรือโหดกว่านี้อาจเกิดในไทยและประเทศอื่นๆ ได้เช่นกัน
ในด้านการพนัน สำหรับล็อตเตอรี่ มีออกเลข 2 ตัว 3 ตัว ทุกวัน ๆ ละ 3 ครั้ง ออกเวลา 11:00 16:00 และ 21:00 น. ส่วนที่เป็นเลข 6 หลัก ออกเวลา 21 นาฬิกา นอกจากนี้ยังมีเลข 4 ตัว ออก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ราคาล็อตเตอรี่ ต่ำสุด 10 เปโซ สามารถถูกได้เงินถึง 10,000 เปโซ ส่วนบ่อนหรือที่เรียกเท่ๆ ว่ากาสิโนนั้น ก็มีอยู่หลายแห่งในกรุงพนมเปญ ซึ่งก็ดีอย่างที่เงินรายได้เข้าหลวง ไม่ได้เข้ากับ “คนมีสี” ที่ไหน แม้ที่นี่จะมีการพนันมาก แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้คนติดการพนันงอมแงม ดูอย่างบ้านเราก็มีบ่อนมากมาย เพียงแต่ “ผิดกฎหมาย” เท่านั้น เราต้องให้คนได้เรียนรู้ด้วยวิจารณญาณ ในนครเรโน ลาสเวกัส มาเก๊า ฮ่องกง สิงคโปร์ ฯลฯ ที่มีบ่อน ก็ใช่ว่าชาวบ้านจะติด
สิ่งดีๆ ของที่นี่ก็คือ เขาไม่แจกถุงพลาสติกในร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า หรือร้านหนังสือต่าง ๆ เขาใช้ถุงกระดาษแทน เห็นท่านนายกฯ ของเราบอกจะรณรงค์เรื่องขยะ น่าจะเอาสิ่งดี ๆ นี้มาใช้บ้างนะครับ อีกสิ่งที่ดีก็คือสาวๆ ที่นี่สวยมาก เมื่อเทียบกับสาวประเทศหลายๆ แห่งที่ผมไปเยือน ผมมาสำรวจบ้านจัดสรรและอาคารชุดที่นี่ ก็ผิดศีลข้อ 4 (พูดโกหก) ไปแล้ว (แสร้งว่าจะมาซื้อ) โชคดีที่เอาตัวรอดกลับมา โดยยังไม่ผิดศีลข้อ 3!
นี่หละครับเป็นสิ่งละอันพันละน้อย เพื่อให้เปรียบเทียบกับเมืองไทย สิ่งดี ๆ เราก็เรียนรู้ไว้ สิ่งไม่ดีเราก็ไม่ควรไปเอามานะครับ