ได้ข่าวว่าคอนโดฯ ที่ “ลัลลาเบล” ตาย เริ่มมีคนย้ายออก แล้วห้องชุดในคอนโดฯ ที่เหม ภูมิภาฑิต นิตยารส ผูกคอตาย จะมีใครกล้าไปอยู่หรือไม่ คอนโดฯ แบบนี้ผีสิงไหม ราคาจะตกไหม
เป็นเรื่องน่าเศร้าเป็นอย่างยิ่งที่ “ลัลลาเบล” เสียชีวิตเพราะไป N หรือเอ็นเทอร์เทนพวกชอบกินเหล้าแล้วต้องมีคนชงให้ด้วย ซึ่งศพของเธอได้ถูกพบในอาคารชุดแห่งหนึ่งโดยศพถูกพาออกมาจากห้องชุดมาไว้ที่โซฟาที่โถงของอาคารชุดนั้น ปรากฏว่าทางนิติบุคคลอาคารชุดได้เคลื่อนย้ายโซฟาไปไว้ที่จอดรถชั้น 4 และต่อมามีข่าวว่า "ลูกบ้านหลอนใช้ลิฟต์จ่อย้ายออก นิติบุคคลปัดขายโซฟา'ลัลลาเบล'นอนตาย” (https://bit.ly/2n7iggl) โดยมีผู้เช่ารายหนึ่งขนของย้ายออกจากอาคารชุดดังกล่าวเนื่องจากไม่สบายใจที่ต้องผ่านทางเดินที่ลัลลาเบลถูกลากไปมา กรณีนี้จะชี้ได้หรือไม่ว่าห้องชุดในอาคารชุดนี้จะราคาตก
อีกข่าวหนึ่งปรากฏว่า “สุดช็อก เหม ดาราช่อง 7 ตัดสินใจผูกคอลาโลก หลังระเบียงคอนโด” (https://bit.ly/2l9VBPB) ซึ่งมีเนื้อหาว่า “นักแสดงหนุ่ม เหม ภูมิภาฑิต นิตยารส ได้ตัดสินใจลาโลกด้วยการผูกคอตายในห้องพัก โดยผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ที่ซอยลาดปลาเค้า 58 รับแจ้งเหตุ ชายผูกคอตายในที่พักแห่งหนึ่ง โดยต่อมาพบว่า คือ นายภูมิภาฑิต นิตยารส หรือเหม ดาราและนักแสดงช่อง 7 โดยผูกคอบริเวณระเบียงห้อง” แล้วอย่างนี้ราคาห้องชุดนี้จะตกต่ำลงหรือไม่
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ซึ่งมีกรณีศึกษาห้องชุดหรือบ้านแบบนี้หลายรายการ ให้ความเห็นว่า กรณีนี้คงเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว อย่างในอาคารชุดที่ลัลลาเบลเสียชีวิตนั้น ผู้ที่ย้ายออกก็คือผู้เช่ารายหนึ่ง แต่เจ้าของคงไม่ย้ายออกเพราะลงทุนซื้อไว้แล้ว บ้างก็ยังผ่อนไม่หมด เมื่อเวลาผ่านไป ก็คงเข้าสู่ภาวะปกติ
กรณีศึกษาอีกอันหนึ่งก็จากประสบการณ์ของนักวิจัยหนุ่มของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยเอง ปรากฏว่าผู้อยู่อาศัยในห้องชุดข้างๆ กระโดดตึกเสียชีวิต นักวิจัยหนุ่มก็ไม่กล้าเข้าไปอยู่ในห้องของตนเองไปหลายวัน คงกลัวผีห้องข้างๆ ที่วิญญาณที่สมองและร่างกายได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง อาจจำห้องผิดล่องลอยจากพื้นชั้นล่างขึ้นมาผิดห้อง! อย่างไรก็ตามในภายหลังเหตุการณ์ก็เข้าสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ตามก็มีห้องชุดบางห้องในบางอาคารชุดที่มีผู้เสียชีวิตอย่างอนาถ เช่น ถูกฆาตกรรมภายในห้อง หรือฆ่าตัวตายด้วยเหตุสลดใดๆ ก็ตาม ปรากฏว่าห้องเหล่านั้นยังถูกปิดตายไปนานแล้วก็มีเช่นกัน กรณีเช่นนี้มักเป็นบ้านหรือห้องชุดที่มีเจ้าของหรือผู้อยู่อาศัยรายเดียวหรือครอบครัวเดียวใช้สอยและเข้าออก จึงอาจเกิดอาการ “หลอน” หรือรู้สึกไม่ดี กลายเป็นตำหนิ (Stigma) ที่บางคนไม่ชอบเสี่ยงที่จะอยู่อาศัย
แต่ถ้าเป็นในกรณีโรงแรม อาคารสำนักงานหรืออาคารสาธารณะทั่วไป มักไม่ค่อยมีปัญหา เช่น มีโรงแรมหนึ่งแถวพัทยา ปรากฏว่าไฟไหม้ ควันไฟทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ศพ อาคารโรงแรมนั้นก็ปิดตัวไปเกือบ 10 ปี แต่โดยที่โครงสร้างยังแข็งแรงอยู่ ต่อมาก็ได้เปิดใช้ใหม่แล้ว (https://bit.ly/2r3HcUH) แล้ว ไม่ปรากฏว่าจะมีข่าว “ผีลากผู้เข้าพักตกเตียง” หรือเรืองเฮี้ยนใดๆ ออกมาเป็นข่าวเลย ถ้าคิดตามหลักวิทยาศาสตร์ (แบบเล่นๆ) ก็อาจเป็นไปได้ว่า นักท่องเที่ยวเข้าออกห้องพักไม่ซ้ำหน้า “ผี” คงจำไม่ได้ เลยไม่ได้หลอก แต่ในกรณีห้องชุดที่มีผู้ตายอย่างอนาถ ถ้าผู้อยู่อาศัยคนเดิมๆ เข้าออกบ่อยๆ “ผี” อาจพัฒนาการทางสมองจำคนอยู่อาศัยได้นั่นเอง!
อย่างไรก็ตามก็ยังมีที่ยังไม่ได้ใช้ที่ดินนั้นใหม่ เช่น เหตุการณ์เพลิงไหม้ซานติก้าผับ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552 ที่เอกมัย, กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เสียชีวิต 61 ศพ หรือเหตุการณ์รถแก๊สแอลพีจีประสบอุบัติเหตุระเบิด ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2533 โดยมีผู้เสียชีวิต 80 ศพ (https://bit.ly/2l98h9q) บางบริเวณยังไม่ได้นำไปใช้ แต่เชื่อว่าสาเหตุหลักไม่ใช่เพราะ “ผีสิง” แต่เพราะยังเคลียร์ภาระผูกพันกับที่ดินไม่สำเร็จ อีกอย่างหนึ่งก็คือประเทศไทยไม่มีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีประสิทธิภาพ เจ้าของที่ดินก็เก็บที่ดินไว้โดย (แทบ) ไม่ต้องเสียภาษีใด ๆ มา “รนก้น” ต่างหาก
บ้านที่มีตำหนิแบบนี้ อาจมีอุปสงค์จำนวนจำกัด ปกติบ้านหรือห้องชุดทั่วไปอาจมีคนซื้อภายในเวลาไม่เกิน 6 เดือนนับแต่ประกาศขาย แต่บ้านแบบนี้อาจต้องใช้เวลาขายถึง 24 เดือนจึงจะพบคนซื้อที่ไม่กลัวผี ไม่ถือสาเรื่องแบบนี้ ดังนั้นกว่าจะมีคนซื้อก็ต้องทอดเวลาผ่านไปถึง 18 เดือน หากราคาขายได้พอๆ กับคนอื่น เช่นสมมติที่ 1,000,000 บาท แต่การรับรู้มูลค่าช้ากว่าถึง 18 เดือน มูลค่าก็จะลดลง โดยหากสมมติว่าเดือนหนึ่งมีดอกเบี้ยประมาณ 1% มูลค่าของห้องชุด “ผีสิง” ก็จะเป็นเงิน 836,017 บาท หรือลดลงไปราว 163,983 บาท โดยใช้สูตรดังนี้:
= 1/(1+ดอกเบี้ย)^ระยะเวลา * ราคาขาย
= 1/(1+1%)^18 * 1,000,000 บาท
= 836,017 บาท
เราต้องคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ อย่าได้กลัวผีไปใย อย่าคิดมาก ใครพาผีมาให้ ดร.โสภณ ดูได้ ดร.โสภณ ยินดีให้ 100,000 บาท (https://goo.gl/DJyqtg)